ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบีธนชาต (ttb) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารมีมติให้ขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน ปี 2564 ในอัตรา 0.038 บาทต่อหุ้น และขออนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของธนาคาร หรือ วอร์แรนต์ให้ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า จากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 12 เมษายน 2565 โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD และ XW ในวันที่ 21 เมษายน 2565 นี้ เพื่อกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลและวอร์แรนต์ต่อไป
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนคลายนโยบายการจ่ายเงินปันผลของสถาบันการเงิน โดยได้ยกเลิกการกำหนดเพดานการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะธนาคารไม่ให้จ่ายเกินอัตราการจ่ายในอดีต เนื่องจากประเมินแล้วว่าระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสำรองและสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อการรองรับความไม่แน่นอนในระยะถัดไป ทางธนาคารจึงได้เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงขึ้นจาก 34% ในปีก่อนหน้า มาจ่ายที่อัตรา 47% จากกำไรสุทธิปี 2564 ตามงบการเงินเฉพาะ หรือ 35% จากกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม มูลค่าเงินปันผลรวม 3,672 ล้านบาท คิดเป็นเงินปันผล 0.038 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ ทางธนาคารได้เตรียมขออนุมัติการออกวอร์แรนต์อายุ 3 ปี ให้ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า ในจำนวนไม่เกิน 966,228,745 หน่วย หรือไม่เกิน 1% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว โดยจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 100 หุ้นสามัญต่อ 1 วอร์แรนต์ ซึ่งวอร์แรนต์ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ในราคาใช้สิทธิ 0.95 บาทต่อหุ้น
สำหรับการออกวอร์แรนต์ในครั้งนี้ ธนาคารมองว่าจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น และส่งผลดีต่อทั้งผู้ถือหุ้นและธนาคาร ขณะที่การกำหนดราคาใช้สิทธิมีความสมเหตุสมผล และคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเพิ่มทางเลือกและความคล่องตัวในการตัดสินใจลงทุน โดยสำหรับผู้ถือหุ้นที่เน้นการลงทุนระยะยาวและต้องการรักษาสัดส่วนการถือหุ้น สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ด้วยราคาที่กำหนดไว้แน่นอนแล้ว ภายใต้กรอบระยะเวลาที่มีความยืดหยุ่นเพราะสามารถตัดสินใจใช้สิทธิได้ทุกๆ สิ้นไตรมาสตลอดอายุวอร์แรนต์ 3 ปี และสำหรับผู้ถือหุ้นที่เน้นสภาพคล่อง วอร์แรนต์เป็นตราสารทางการเงินที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดรองได้
"เนื่องด้วยปัจจุบันเรามีฐานเงินกองทุนอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมอยู่ที่ 19.3% เทียบกับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 11.0% การออกวอร์แรนต์ในครั้งนี้จึงไม่ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อการเพิ่มทุนในระยะสั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดหาเงินทุนระยะยาวด้วยการใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย ช่วยเพิ่มตัวเลือกให้ธนาคารสามารถปรับใช้ได้ตามภาวะเศรษฐกิจเพื่อให้การจัดหาเงินทุนมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต"
ภายใต้แผนดังกล่าว เราจึงเป็นธนาคารที่เปิดกว้างและเป็นธนาคารที่บุกเบิกการใช้ตราสารทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการออกวอร์แรนต์ในครั้งนี้ หรือการเพิ่มทุนโดยการออก TSR ซึ่งให้สิทธิผู้ถือหุ้นในการเพิ่มทุนหรือสามารถเปลี่ยนโอนสิทธิได้ การออกตราสารหนี้ AT1 เพื่อเสริมความมั่นคงให้เงินกองทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการออกตราสารแบบเดิมๆ และการออกกรีนบอนด์ หรือหุ้นกู้สีเขียว เพื่อนำเงินทุนไปใช้สนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนใน Climate- smart Projects ถือเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ออกตราสารเพื่อความยั่งยืน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของการออกวอร์แรนต์ การใช้สิทธิ และการติดต่อกับบริษัทหลักทรัพย์ผู้ออกวอร์แรนต์ ธนาคารจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนนี้