xs
xsm
sm
md
lg

WFX เปิดผลงานปี 64 กำไรพุ่ง 521.17% ทำนิวไฮ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บมจ.เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) เปิดกำไรสุทธิปี64 พุ่งแตะ 359.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 521.17% จากงวดเดียวกันปีก่อน และทำสถิตินิวไฮ เนื่องจากผลสำเร็จจากการใช้กลยุทธ์ใช้ช่องทางการทำตลาดแบบตรงเข้าสู่ End Users พร้อมรุกขยายตลาดไปยังทวีปอื่นนอกประเทศจีน ทั้งอเมริกาใต้ และยุโรป ดันมาร์จิ้นพุ่ง ขณะที่บอร์ดใจดีสั่งจ่ายปันผลประจำปี 0.465 บาท/หุ้น คิดเป็นร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิประจำปี สูงกว่านโยบายของบริษัทกำหนด โดยจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.22 บาท/หุ้น และเตรียมจ่ายรอบสุดท้ายประจำปี 64 ในอัตรา 0.245 บาท/หุ้น เตรียมจ่ายเป็นเงินสดวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ฟากกรรมการผู้จัดการ "ณัฐ วงศาสุทธิกุล" ระบุปี 65 เดินหน้าขยายกำลังผลิตเพิ่มรับออเดอร์ล่วงหน้าไหลเข้าเพียบ เน้นคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ พร้อมปักหมุดผลงานปี 65 โต 10-15%

นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 359.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 521.17% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.81 ล้านบาท โดยเป็นระดับกำไรสูงสุดใหม่ของบริษัท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 3,776.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.79% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 170.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,481.16% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีขาดทุนสุทธิเท่ากับ 1.38 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,187.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.25%จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ มีความสามารถในการผลิตเส้นด้ายยางยืดในทุกขนาด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ และเน้นกลยุทธ์การบุกตลาดเพื่อชิงส่วนแบ่งนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น เช่น ประเทศในทวีปอเมริกาใต้และทวีปยุโรป ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่ความต้องการสินค้าสูงขึ้น จากปัญหา COVID-19 รวมทั้งบริษัทฯ เลือกใช้ช่องทางการทำตลาดแบบตรงเข้าสู่ End Users โดยตรงจากเดิมที่จะขายผ่านผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) ตลอดจนการที่กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนลดลง (Economy of scale) รองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ในแต่ละ segment ทำให้ขายได้มาร์จิ้นที่สูงขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปีให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.245 บาท รวมเป็นเงินปันผลประมาณ 113.73 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 11 มีนาคม 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ามีรายได้เติบโตประมาณ 10-15% จากปีก่อน ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นโดยคาดการขยายกำลังการผลิตเส้นด้ายยางยืดจะเร็วกว่าแผนที่วางไว้ ซึ่งในเฟสแรกมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ซึ่งอาจจะแล้วเสร็จก่อนกำหนดการเดิม ขณะที่เฟสที่ 2 จะเร่งให้แล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2565 โดยจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทั้ง 2 เฟสรวมอยู่ที่ประมาณ 20-30% จากกำลังการผลิต ณ ปัจจุบัน เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

"แนวโน้มธุรกิจในปีนี้มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมสิ่งทอจะกลับมาฟื้นตัวหลังจากคลี่คลายจาก COVID-19 ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ ซึ่งมีการชะลอตัวในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ความต้องการยางยืดสำหรับสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มจะมีมากขึ้น รวมทั้งอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่กลับมาฟื้นตัวและเติบโต ทำให้มีความต้องการสินค้าที่หลากหลายตอบรับกับแผนขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของเส้นด้ายยางยืดเคลือบแป้ง และเคลือบซิลิโคน ตามกลยุทธ์ที่ว่า “ทุกเรื่องยางยืด ครบจบที่เวิลด์เฟล็กซ์” ผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องได้อีกในระยะยาว" นายณัฐ กล่าวในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น