เอพี ไทยแลนด์ เผยแผนธุรกิจคอนโดปี 65 เปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 12,000 ล้านบาท รับรายได้ 12,300 ล้านบาท แจงแบ็กล็อกในมือ 18,300 ล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้ 9,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกจุดพลุคอนโดแมสเซกเมนต์ ด้วยการเปิดตัว ASPIRE 3 ทำเล มูลค่า 6,800 ล้านบาท ชู 3 จุดขาย ดีไซน์ผังยูนิตตอบโจทย์พื้นที่ชีวิตที่ดีที่สุด ส่วนกลางที่ปลดปล่อยอิสระอย่างลงตัว และราคาที่เหมาะสมตอบดีมานด์ทุกทำเล
น.ส.กมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า ในปี 64 ที่ผ่านมา เอพีฯ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโดฯ รวม 40,015 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปี 4,543 ล้านบาท เติบโตกว่า 7.5% สำหรับปีนี้กลุ่มสินค้าคอนโด เอพีฯ มีแผนเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 65% โดยตั้งเป้ายอดขายทั้งปีที่ 12,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้กลุ่มสินค้าคอนโดรวม 12,300 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน เอพีฯ มีคอนโดที่อยู่ระหว่างการขาย 15 โครงการ มูลค่าเหลือขาย 27,530 ล้านบาท และมีสินค้าคอนโดรอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่า 18,300 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเอพี มูลค่า 1,500 ล้านบาท และเป็นโครงการร่วมทุน มูลค่า 16,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายในปีนี้ มูลค่า 9,790 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 67 ขณะเดียวกัน ในปีนี้ เอพีฯ เตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 3 คอนโดใหม่ ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม LIFE สาทร เซียร์รา และ RHYTHM เอกมัย เอสเตท มูลค่ารวม 12,800 ล้านบาท
สำหรับแผนธุรกิจคอนโดในครึ่งปีแรกนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวคอนโดใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 6,800 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ ASPIRE ซึ่งจะเป็นโปรดักต์ไฮไลต์ของปี หลังจากการรีแบรนด์ และรีโลเกชันใหม่ โดยเอพีฯ ได้เซ็ตมาตรฐานกระบวนการพัฒนาใหม่ทั้งหมด จากการศึกษาและถอดรหัสอินไซต์การใช้ชีวิตของกลุ่ม Young Generation ลูกค้าเป้าหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากพบว่าเซนติเมนต์ลูกค้าคอนโดที่เริ่มปรับตัวฟื้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าเรียลดีมานด์ซื้อเพื่ออยู่เอง โดยสะท้อนได้จากยอดขายคอนโดล่าสุดกว่า 1,080 ล้านบาท แม้ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ หรือโตกว่า 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแผนเปิดตัว ASPIRE ในครั้งนี้จะเป็นโครงการที่สร้างความแตกต่าง และเป็นตัวเลือกอันดับแรกของลูกค้ารุ่นใหม่ที่มองหาคอนโดใหม่บนทำเลซิตี้โซนในราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้ เริ่มที่ 1.99 ล้านบาท
“เอพีฯ วางแบรนด์โพสิชันนิง ASPIRE ใหม่ ภายใต้จุดยืน ‘LIVE AS YOU ASPIRE อิสระในทุกมิติของชีวิต’ โดยตั้งเป้าการพัฒนาให้ ASPIRE คือคอนโดในกลุ่มแมสเซกเมนต์ที่ดีที่สุด ด้วยการผสาน 3 จุดขายใหม่ ได้แก่ 1.Modular Layout พื้นที่ชีวิตที่ดีที่สุด ครั้งแรกกับการนำเสนอผังยูนิตดีไซน์ใหม่ทั้งหมดกว่า 40 รูปแบบ เน้นความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ 2.The Best of ‘ME’ Space ส่วนกลางที่ปลดปล่อยอิสระทื่ลงตัวที่สุด ฟังก์ชันตอบอินไซต์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าในแต่ละแปลงทำเล และ 3.Entry - Level Price บริหารแพกเกจราคาให้เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด”
น.ส.กมลทิพย์ กล่าวว่า สำหรับ 3 โครงการแรกที่จะเปิดขายในครึ่งปีแรก ประกอบด้วย 1.โครงการ ASPIRE ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-2-79.2 ไร่ สูง 5 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 395 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โดดเด่นด้วยที่ตั้งโครงการบนทำเล rare location ใกล้โรงพยาบาลศิริราช รถไฟฟ้า MRT บางขุนนนท์ และท่าเรือพร้อมบริการพิเศษรถรับส่งโครงการประกอบด้วย ห้องชุดแบบสตูดิโอ 26 ตร.ม. ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 31-34.5 ตร.ม. ห้องชุด 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 38.5 ตร.ม. ห้องชุด 1 ห้องนอนพลัสแบบพิเศษ (universal design) 38.5 ตร.ม. และห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 51 ตร.ม. ราคา 1 ห้องนอนใหญ่ เริ่ม 2.89 ล้านบาท (เริ่ม 94,000 บาท/ ตร.ม.) พร้อมเปิดจองรอบพิเศษ 19-20 มี.ค.นี้
ทั้งนี้ จากการสำรวจภาพรวมตลาดคอนโดที่เปิดตัวย้อนหลัง 5 ปี (2560-2564) พบว่าตลาดคอนโดโซนอรุณอมรินทร์ ทำเลคุณภาพศูนย์กลาง Medical & Education Hub แถวหน้าของประเทศ หนึ่งใน rare location สุดยอดทำเลหายากเนื่องจากที่ดินติดถนนอรุณอมรินทร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับการพัฒนาคอนโดมีจำกัด จึงทำให้ ASPIRE ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ จะเป็นโครงการใหม่เพียงโครงการเดียวบนช่วงถนนเส้นดังกล่าว สวนทางกับดีมานด์ที่พบความต้องการสะท้อนจากยอดขายรวมที่ต่อเนื่องสูงถึง 75% จากทั้งหมด 11 โครงการที่เปิดขายในแนวโครงข่าย MRT สถานีบางยี่ขัน-บางขุนนนท์-แยกไฟฉาย และยังเป็นโอกาสของตลาดปล่อยเช่าในลูกค้ากลุ่มนักศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ที่น่าจับตามอง โดยอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 8,000-15,000 บาทต่อเดือน ด้วยผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) ถึง 4.5-5%
2.โครงการ ASPIRE รัชโยธิน โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 5-0-35.7 ไร่ สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 633 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ใจกลางแหล่งไลฟ์สไตล์ เพียง 350 เมตรจากสถานี BTS รัชโยธินประกอบด้วย ห้องชุดแบบสตูดิโอ 25 ตร.ม. ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตร.ม. และห้องชุด1 ห้องนอนพลัสแบบพิเศษ ขนาด 35 ตร.ม. เริ่ม 1.99 ล้านบาท (เริ่ม 79,600 บาท/ ตร.ม.) เตรียมเปิดจองรอบพิเศษในเดือนพฤษภาคม
จากการสำรวจตลาดคอนโดรัศมี 1.5 กิโลเมตรจาก BTS รัชโยธิน หนึ่งในทำเลระดับท็อปของเรียลดีมานด์ที่รองรับนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ จากปัจจัยรายล้อมด้วยสถานที่ทำงานขนาดใหญ่และมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยเฉพาะโครงข่ายรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) เปิดทำการ ตอบการเดินทางเข้าออกใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งทวีความคึกคักให้ตลาดแมสคอนโดโครงการใหม่ในย่านนี้ ทำให้ย่านรัชโยธินเป็นทำเลศักยภาพในการลงทุนทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและการปล่อยเช่าในอนาคต ซึ่งจากการสำรวจซัปพลายพบ 15 โครงการ จำนวน 9,024 ยูนิต มียอดขายแล้วกว่า 87% ในขณะที่ 3 ปีที่ผ่านมา พบการเปิดโครงการใหม่ลดลงต่อเนื่องและสินค้าคงเหลือขายปัจจุบัน พบราคาขายเฉลี่ย 125,000-150,000บาท/ตารางเมตร ซึ่งไม่สอดรับกับสิ่งที่ตลาดมองหา โดยอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental
Yield) ในย่านนี้ที่มีอัตราที่ดีเช่นกันที่ประมาณ 5% และพบภาพรวมอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 9,000-20,000 บาทต่อเดือน
3.โครงการASPIRE สุขุมวิท-พระราม 4 (คอนโดมิเนียมร่วมทุน) โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-3-55.8 ไร่ สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,323 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท ติดถนนใหญ่พระราม 4 ใกล้สถานี BTS พระโขนง และใกล้ทางด่วน 2 สายหลัก (รามอินทรา-อาจณรงค์ และเฉลิมมหานคร) เชื่อมต่อใจกลางทองหล่อ-เอกมัยได้ง่ายเพื่อให้แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ใหม่อยู่รอบตัวคุณ ประกอบด้วยห้องชุดรูปแบบ SIMPLEX ขนาด 24-55 ตร.ม. และห้องชุดรูปแบบ VERTIPLEX สูง 4.4 เมตร เริ่ม 2.39 ล้านบาท (เริ่ม 99,000 บาท/ตร.ม.) เตรียมเปิดจองรอบพิเศษในเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้ หลังการสำรวจตลาดคอนโดโซนพระราม 4-สุขุมวิท ในรัศมี 1.5 กิโลเมตรจาก BTS พระโขนง ทำเลใจกลางย่านสุขุมวิท ศูนย์รวมย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ พบยอดขายรวมที่เกิดขึ้น 76% จากทั้งสิ้น 21 โครงการ และหากพิจารณาประกอบกับภาพรวมอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 9,500-20,000 บาทต่อเดือน ด้วยผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) ถึง 5% ทำให้ภาพรวมตลาดของคอนโดในทำเลนี้เป็นที่สนใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง