xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกแฉแหลก ธนาคารเครดิตสวิสหมกเงินผิดกฎหมายลูกค้าไทยร่วม 1,000 บัญชี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารเครดิตสวิส ธนาคารใหญ่เน้นวาณิชธนกิจและการลงทุน ถูกสำนักข่าวดังแฉแหลก เหตุพบร่องรอยธุรกรรมอำพรางผิดกฎหมาย สบช่องเส้นทางฟอกเงิน เลี่ยงภาษี เกี่ยวพันนักธุรกิจสีเทา นักการเมือง ที่เกี่ยวโยงกับลูกค้าประเทศไทยกว่า 1,000 บัญชี

จากการเปิดเผยของสำนักข่าวเดอะการ์เดียน ได้ออกมาแฉเงื่อนงำธุรกรรมอำพรางของธนาคารเครดิตสวิส ในการให้บริการทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งพบว่ามีบัญชีลูกค้าซึ่งเป็นคนไทยกว่ากว่า 1,000 บัญชี ซึ่งจากข้อมูลที่รั่วไหลครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในโลกของ “เครดิตสวิส” ธนาคารเอกชนรายใหญ่ที่หมกเม็ดเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจากรายได้ที่มาในรูปแบบธุรกิจมืด โดยอาจผ่านเหรียญคริปโตฯ เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน การทุจริต และอาชญากรรมร้ายแรงอื่นๆ

โดยข้อมูลที่หลุดออกมาดังกล่าวนั้น ระบุถึงรายละเอียดของบัญชีลูกค้าของธนาคารเครดิตสวิสประมาณ 30,000 รายทั่วโลก ซึ่งฝากเงินไว้ในธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในอดีตถือเป็นประเทศที่มีเอกภาพและอิสระทางการเงินมากที่สุด โดยมูลค่ารวมเงินของลูกค้าเหล่านั้นกว่า 100,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือคิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย ณ ปัจจุบันจะมีมูลค่ากว่า 3.5 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ดี การรั่วไหลของข้อมูลครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีของธนาคารเครดิตสวิส ในการดำรงไว้ซึ่งการเป็นธรรมาภิบาลสถาบันการเงินว่าจะไม่เอื้อประโยชน์แก่ลูกค้า หรือกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถระบุที่มาของเส้นทางการเงินที่ชัดเจน ตลอดจนกองทุนผิดกฎหมายที่นำเงินผิดกฎหมายมาฝากไว้กับธนาคาร

ขณะเดียวกัน ในจำนวนนี้พบว่ามีบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงกับนักค้ามนุษย์ในฟิลิปปินส์ กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกง ที่ถูกจำคุกข้อหารับสินบน มหาเศรษฐีผู้ต้องคดีฆาตกรรมแฟนสาว ผู้บริหารบริษัทน้ำมันเวเนซุเอลา ที่ทุจริตเงินมูลค่ามหาศาล รวมถึงนักการเมืองทุจริตจากอียิปต์และยูเครน นอกจากนี้ ยังมีบัญชีเงินฝากของสำนักวาติกันที่มีบัญชีเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการลงทุนผิดกฎหมายในกรุงลอนดอนของอังกฤษ โดยข้อมูลระบุว่าในจำนวนข้อมูลบัญชีลูกค้านั้น ประเทศที่มีลูกค้ามากที่สุด คือ เวเนซุเอลา อียิปต์ ยูเครน และประเทศไทย โดยประเทศเหล่านี้ต้องเจอปัญหามากมายเมื่อบรรดานักการเมือง และเศรษฐีที่พยายามเลี่ยงภาษี หรือมีฉากหลังในการทำธุรกิจสีเทาที่นำเงินไปซุกซ่อนนอกประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นมีคนเป็นลูกค้าธนาคารเครดิตสวิสมากถึงกว่า 1,000 บัญชี

ขณะที่รายงานยกตัวอย่างลูกค้ารายหนึ่งของเครดิตสวิส ที่ปรากฏชื่อในข้อมูลหลุดดังกล่าวคือ “สเตฟาน เซเดอร์ฮอล์ม” ช่างคอมพิวเตอร์ ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตข้อหาค้ามนุษย์ในฟิลิปปินส์ จากการเปิดเครือข่ายเว็บแคมโชว์ลามกอนาจาร พร้อมกับผู้หญิงในเครือข่ายถึง 17 คน โดยเซเดอร์ฮอล์มเปิดบัญชีกับธนาคารเครดิตสวิสเอาไว้ และยังสามารถใช้งานบัญชีได้เป็นเวลานานถึง 2 ปีครึ่ง แม้ว่าจะมีการตัดสินคดีไปแล้วก็ตาม โดยไม่มีการอายัดบัญชีแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนของเซเดอร์ฮอล์ม เผยว่า เครดิตสวิสไม่เคยระงับบัญชีและไม่ได้ปิดบัญชีของเขา กระทั่งถึงปี 2556 เมื่อเดอะการ์เดียนถามว่า เหตุใดเซเดอร์ฮอล์ม ต้องมีบัญชีของเครดิตสวิส เขาได้ให้คำตอบว่า "เมื่อตอนที่เขาอยู่ประเทศไทยได้เปิดบัญชีนี้ ดังนั้นถ้าเป็นคุณ ช่วยบอกได้ไหม ถ้าเป็นคุณต้องการฝากเงิน คุณจะเปิดบัญชีกับธนาคารไทยหรือธนาคารสวิส”

นอกจากนี้ ข้อมูลลูกค้าของธนาคารจำนวนมากหลุดไปถึงมือของหนังสือพิมพ์ “Suddeutsche Zeitung” หนังสือพิมพ์เยอรมนี ซึ่งกล่าวถึงคำพูดของแหล่งข่าวที่ว่า "กฎหมายปกป้องข้อมูลลูกค้าธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์นั้นไม่ควรเป็นความลับอีกต่อไป

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า กฎหมายปกป้องข้อมูลลูกค้าธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม ซึ่งข้ออ้างในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวทางการเงินเป็นเพียงการปกปิดบทบาทที่น่าอับอายของธนาคารสวิส ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดในการหลบเลี่ยงภาษีและแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิดกฎหมาย

ขณะที่เครดิตสวิสกล่าวหลังจากที่ เดอะ การ์เดียน ออกมาแฉว่า จากข้อจำกัดของกฎหมายในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของธนาคาร ทำให้ธนาคารไม่อาจที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวข้อมูลลูกค้าสีเทาที่หลุดลอดออกไปยังสาธารณชนในครั้งนี้ได้

“เครดิตสวิสขอยืนยันในการปฏิเสธข้อกล่าวหา และการลงความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่อ้างว่าเป็นของธนาคาร” พร้อมโต้แย้งว่าสิ่งที่สื่อรายงานมีพื้นฐานมาจาก “ข้อมูลที่มีการคัดเลือกซึ่งไม่อยู่ในบริบทที่เกี่ยวข้องกัน ทำให้เกิดการตีความในด้านรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของธนาคารที่ต่างออกไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น