เทคโนเมดิคัล รับอานิสงส์โควิด-19 หนุนผลยอดขายกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง ชุดตรวจโควิดแบบ Antigen Test Kit (ATK) และสายดูดเสมหะระบบปิด (Close Suction) ปี 2564 พุ่ง ฟันรายได้-กำไรสุทธิในงบเดี่ยวแตะ 698.73 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 11.6% และ 62.15 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 49.1% ตามลำดับ ด้าน CEO ตั้งเป้าปั้นรายได้ปี 65 แตะ 700-750 ล้านบาท เดินเกมรุกจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง ขยายแพลตฟอร์มออนไลน์ จ่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมสร้างแบรนด์ภายใต้ “TM” สร้างการเติบโตทางธุรกิจ
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ดีมานด์การใช้อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ-อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากมาตรการป้องกันรักษาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มคนทั่วไปมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ รายได้ (งบการเงินเฉพาะกิจการ) อยู่ที่ 698.73 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 11.6 และมีกำไรสุทธิ (งบการเงินเฉพาะกิจการ)ที่ 62.15 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 49.1 เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรจากการขายที่ดินให้บริษัท ทีเอ็ม เนิร์สซิ่ง แคร์ จำกัด (TMNC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จำนวน 28.60 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 674.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.28 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 6.9% เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองร้อยละ 96 และกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ร้อยละ 4
ทั้งนี้ หากพิจารณารายได้และกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง จะเห็นว่า บริษัทฯ มียอดขายอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองอยู่ที่ 647.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.09 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12.9 ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 247.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.97 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5.1 เนื่องจากในปี 2564 เกิดการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง ส่งผลให้มีคนไข้ติดโควิด และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการใช้กลุ่มสินค้าอุปกรณ์การแพทย์ที่เกี่ยวกับโควิด และกลุ่มสินค้าประเภทป้องกันการติดเชื้อ ที่บริษัทฯ จำหน่ายมียอดขายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เช่น ชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) และสายดูดเสมหะระบบปิด (Close Suction) เสื้อกาวน์ ถุงมือ เป็นต้น
ขณะที่ยอดขายอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์อยู่ที่ 26.74 ล้านบาท ลดลง 53.5% เนื่องจากบริษัทฯ ได้ยกเลิกสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากลุ่มผ่าตัดหัวใจในปี 2562 ส่งผลให้ยอดขายสินค้าอุปกรณ์และเครืองมือทางการแพทย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากพิจารณาอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 31.7% เนื่องจากยอดขายสินค้ากลุ่มผ่าตัดหัวใจลดลง และบริษัทฯ มียอดขายสินค้าผ่าตัดทั่วไปเพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้ดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ากลุ่มผ่าตัดหัวใจ ส่งผลให้บริษัทฯ มีแผนในการขยายในการจำหน่ายสินค้าผ่าตัดทั่วไปในอนาคตให้เพิ่มมากขึ้น
“สำหรับงบการเงินรวม บริษัทฯ มีรายได้รวม 670.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 626.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 29.73 ล้านบาท ลดลง 27.3% เนื่องจากค่าใช้จ่ายการบริหารที่เพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ TMNC ประกอบกับค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้นจากกำไรในการโอนที่ดินจากบริษัทใหญ่ไปยัง TMNC”
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทคโนเมดิคัล เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 5 -10% หรือประมาณ 700-750 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์การเจาะตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด รวมถึงอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ-อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านช่องขายทางการตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนในการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อต่อยอดและเพิ่มช่องทางความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้มีครบวงจรมากขึ้น ภายใต้ TM Herb เพื่อมุ่งสู่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องทำน้ำด่าง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในรูปแบบแคปซูล เช่น กระท่อม กระชาย กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ประเภท Probiotic จากประเทศเกาหลี รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ เช่น ผ้าเช็ดตัวสำหรับผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และผ้าอ้อมผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มทยอยทำการตลาดในเชิงพาณิชย์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้ TM CARE SHOP ภายในช่วงไตรมาส 1/2565 นี้
ขณะที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ภายใต้โครงการ “THE PARENTS” นั้นพร้อมเปิดให้บริการเฟสแรกในส่วนของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ภายในไตรมาส 3/2565 นี้ ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบภายในปี 2566 ดังนั้น หาก THE PARENTS แล้วเสร็จเต็มรูปแบบ ทั้งอาคาร Nursing Home และอาคาร Rehabilitation Hospital จะส่งผลให้ TM รับรู้รายได้เพิ่มจาก THE PARENTS เข้ามาเฉลี่ย 100 -150 ล้านต่อปี ตามสัดส่วนที่ TM ถือครองหุ้น 80%