“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” และ “แกรนด์ แอสเสท” กางสูตรบริหารธุรกิจท่ามกลางโควิด เน้นสร้างฐานะการเงินให้แข็งแกร่ง ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต คาดปีนี้ธุรกิจทั้งอสังหาฯ และโรงแรมฟื้นตัว ตั้งเป้ารายได้แตะ 28,300 ล้าน เดินหน้าขายที่ดิน บวกตั้งกองรีทโรงแรม รวมมูลค่า 8,500 ล้านบาท หนุนแผนลด D/E เหลือ 1.2 เท่าได้ ด้านยอดขายจากธุรกิจอสังหาฯ ทั้งกลุ่มวางเป้าไว้ 18,000 ล้าน เพอร์เฟค เล็งเปิด 15 โครงการใหม่ (รวม JV) 26,210 ล้าน ด้านแกรนด์ แอสเสทฯ รายได้ปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดดที่ 5,500 ล้าน จากคอนโดร่วมทุนที่แล้วเสร็จพร้อมโอน
นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) แถลงถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2565 ว่า กลุ่มบริษัทยังเดินหน้าสร้างฐานะการเงินให้แข็งแกร่ง พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้มีการเติบโต มั่นใจว่าปีนี้ธุรกิจของกลุ่มบริษัททั้งอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโต โดยประมาณการรายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 28,300 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 12,000 ล้านบาท แกรนด์ แอสเสทฯ 2,800 ล้านบาท รายได้จากการขายที่ดินและสิทธิการเช่า ขายการลงทุนในโรงแรมและจัดตั้งกองทรัสต์ 8,500 ล้านบาท และรายได้จากโครงการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5,000 ล้านบาท
“ปีนี้กลุ่มบริษัทจะเน้นการจัดการโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายที่จะลดภาระหนี้ลงอีก หลังจากที่สามารถลดระดับหนี้สินสุทธิต่อทุนมาอย่างต่อเนื่องจาก 2.1 ในปี 2563 เหลือ 1.7 ในปี 2564 และตั้งเป้าให้อยู่ที่ 1.2 ในปีนี้ สำหรับรายได้ของปีนี้จะเติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา กลยุทธ์สำคัญคือการเติบโตของรายได้จากการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับพันธมิตรจากต่างประเทศทั้ง 3 ราย ได้แก่ ฮ่องกงแลนด์ ซูมิโตโม ฟอร์เรสทรี และเซกิซุย เคมิคอล ซึ่งคาดว่าปีนี้จะทำรายได้รวมถึง 5,000 ล้านบาท และยังมีการร่วมทุนในธุรกิจถุงมือยางที่จะสร้างรายได้อีก 2,152 ล้านบาท บวกกับการขายที่ดินและจัดตั้งกองทรัสต์ จะทำให้กลุ่มบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น”
ในส่วนแผนธุรกิจ นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้กลุ่มบริษัทวางเป้าขาย 18,000 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 10,500 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่น 2,500 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 5,000 ล้านบาท ในส่วนของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ณ สิ้นปีที่ผ่านมา มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Presale Backlog) 2,126 ล้านบาท
โดยในแผนปีนี้จะพร้อม เปิด 15 โครงการใหม่ในครึ่งหลังของปี 65 มูลค่ารวม 26,210 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 12,845 ล้านบาท บ้านแฝดและทาวน์โฮม 1,930 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 11,435 ล้านบาท โครงการเปิดใหม่ที่ถือเป็นไฮไลต์ในปีนี้ ได้แก่ “เลค เลเจ้นด์ บางนา-สุวรรณภูมิ” ซึ่งร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ มูลค่าโครงการ 6,275 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 500 ล้านบาท ซึ่งโครงการถูกวางคอนเซปต์บ้านบนเนินติดทะเลสาบ พร้อมการเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ จับเซกเมนต์ใหม่ในกลุ่มตลาดบน ในทำเลพหลโยธิน สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ และรัตนาธิเบศร์
นอกจากนี้ การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้า 2 สายใหม่ คือ สายสีเหลืองและสีชมพู รวมถึงการขยายตัวของทำเลราชพฤกษ์ ที่จะมีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ถึง 3 แห่ง ยังจะส่งผลบวกต่อโครงการและที่ดินของบริษัทที่มีอยู่ในทำเลดังกล่าวด้วย
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังรีเฟรชแบรนด์บ้านเดี่ยวด้วยการปรับเปลี่ยนโลโก้ และพัฒนาโครงการให้รับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ผ่านแนวคิด “PERFECT” ใน 7 ด้าน ได้แก่
P-Partnership ร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาสินค้าให้โดดเด่นและแตกต่างในตลาดที่อยู่อาศัย
E-Environment ตอกย้ำการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งปีนี้จะร่วมมือกับผู้ออกแบบสวนสวยติดอันดับโลก สร้างมิติใหม่ของพื้นที่สีเขียวในบ้านและในโครงการ
R-Refinement การปรับเปลี่ยนภายในบ้านทุกแบรนด์ ให้มีพื้นที่และฟังก์ชันที่รองรับไลฟ์สไตล์ของทุกเจน
F-Facility เดินหน้าสร้างคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์การใช้งาน และพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากกว่า
E-Energy ตอบรับเทรนด์ด้านพลังงานด้วยการติดตั้ง EV Charger ในบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม รวมทั้ง Solar Rooftop ที่คลับเฮาส์
C-Community การสร้างชุมชนที่น่าอยู่ มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้สมาชิกโครงการ มี Living Solutions ใหม่ พร้อมความร่วมมือกับ AIS ให้สมาชิกโครงการสามารถโอนคะแนนสะสมไปเป็นเอไอเอส พอยท์ เพื่อใช้สิทธิได้หลากหลายยิ่งขึ้น
และ T-Technology การนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยมีความร่วมมือเพิ่มเติมกับ AIS กับมาตรฐาน Fiber to the home เต็มรูปแบบด้วยไฟเบอร์ออปติกเชื่อมต่อไปยังทุกพื้นที่หลักของบ้าน และ AIS SuperWifi ความเร็วสูงสุด 2 Gbps ในคลับเฮาส์
ด้าน นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ จะมีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการเปิดประเทศ ส่วนรายได้ปีนี้จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้าไว้ 5,500 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,000 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรม 1,800 ล้านบาท และจากโครงการร่วมทุน 2,700 ล้านบาท รายได้หลักจะมาจาก “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” โครงการร่วมทุนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้อยู่แล้ว 2,017 ล้านบาท
สำหรับเป้าขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วางไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 400 ล้านบาท วิลล่าในจังหวัดระยอง 600 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนอีก 1,000 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรมวางเป้ารายได้ที่ 1,800 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง คาดโรงแรมในกลุ่มบริษัทจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ระดับสูงกว่า 50% โดยตลาดชาวไทยท่องเที่ยวในประเทศยังคงมีความสำคัญอย่างมาก ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นจากมาตรการเปิดประเทศ เนื่องจากหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยเริ่มมีมาตรการผ่อนปรนเรื่องการเดินทางมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โครงการ Test & Go ที่เปิดโอกาสให้นักเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีการกักตัว
ส่วนธุรกิจผลิตถุงมือยาง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 โดยติดตั้งเครื่องจักร 1 และ 2 พร้อมเดินเครื่องและบันทึกรายได้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ 2,152 ล้านบาท บริษัทยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ และกำลังทยอยติดตั้งสายการผลิตอื่นๆ ต่อไปให้ครบ ซึ่งจะทำให้สามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 16 สายการผลิตภายในปีนี้
นายศานิต อรรถญาณสกุล กล่าวถึงธุรกิจการผลิตถุงมือยางเพื่อการส่งออกว่า ตอนนี้ มีคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าประเทศญี่ปุ่นและประเทศตะวันออกกลางให้จัดส่งสินค้ายาวต่อเนื่อง 4-5 ปี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ โดยราคาที่ได้ดีพอสมควร แต่คงไม่ใช่ราคาที่สูงในช่วงที่เกิดโควิด-19 ปัจจุบันบริษัทส่งออกไปที่ประเทศสหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง และญี่ปุ่น