แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กำไรงวดสิ้นปี 26,922 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.9 เทียบกับปีก่อน เพราะผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 27,037 ล้านบาท ขณะปี 65 ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการหลักจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง พร้อมอัดงบลงทุน 30,000-35,000 ล้านบาท เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และรองรับกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ ADVANC แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 64 อไอเอสมี EBITDA อยู่ที่ 91,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลัก และการ ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยอัตรากำไร EBITDA อยู่ที่ร้อยละ 50.4 เทียบ กับร้อยละ 51.7 ในปีก่อนหน้า ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 26,922 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.9 เทียบกับปีก่อน ซึ่งสาเหตุมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กา ไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 27,037 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะที่ไตรมาส 4/2564 เอไอเอสมี รายได้หลกัจากการให้บริการ อยู่ที่ 33,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 เทียบกับปีก่อน และร้อยละ 1.8 เทียบกับไตรมาสก่อนโดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของทั้งสามธุรกิจ ธุรกิจมือถือ (รายได้อยู่ที่29,591 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เทียบกับปีก่อน และร้อยละ 1.3 เทียบกับไตรมาสก่อน) มีการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ในขณะที่ยังคงมีการเสนอขายแพ็กเกจราคาต่ำในตลาดโทรศัพท์ต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง (รายได้อยู่ที่ 2,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เทียบกับปีก่อน และร้อยละ 4.6 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า) จากความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นที่ต้องท างานและเรียนจากที่บ้าน ในส่วนของรายได้ธุรกิจลูก ค้าองค์กรที่นอกเหนือจากการให้บริการโทรศัพท์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของรายได้บริการ Cloud, Data center และ ICT Solution โดยสรุปรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 เทียบกับปีก่อนและร้อยละ 19 เทียบกับไตรมาสก่อน ปัจจัยหนุนมาจากยอดขายเครื่องมือถือที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขายในระดับต่ำพราะเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมือง และการเปิดตัวของ iPhone 13 ในเดือนตุลาคม 2564
โดยสรุปในในปี 2564 เอไอเอสมีรายได้รวม 181,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 เทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลักและการขายเครื่องมือถือ แม้ว่ายังคงมีผลกระทบจากการแพร่ระบาด และสภาวะการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่อ่อนตัว
ขณะที่ในปี 2565 เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัว แม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (โอไมครอน) ในช่วงต้นมกราคม 2565 โดยคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนในปีนี้ที่สูงกว่าในปี 2564 โดยเอไอเอสจะมุ่งสร้างรากฐานพร้อมสู่เป้าหมายการเป็น “ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอัจฉริยะ” หรือ “Cognitive Telco” ที่ส่งเสริมให้โครงข่ายและระบบสารสนเทศมีความอัจฉริยะ (Intelligent network & ITautomation) ที่ช่วยติดตามตรวจสอบ บ ารุงรักษา วิเคราะห์ข้อมูลตอบสนองต่อปัจจัยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ล่วงหน้า ตลอดจนเพิ่มขีดวามสามารถของปัญญาประดิษฐ์ด้วยเหตุนี้ เราจึงเน้นขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้จากให้บริการหลักในทุกธุรกิจ
สำหรับปี 2565 เอไอเอสคาดการณ์รายได้จากการให้บริการหลักจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง (mid-single digit growth) จากการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยเอไอเอสตั้งเป้าเสริมความแข็งแกร่งในบริการ 5G เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีก าลังซื้อสูง ด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านมีเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้บริการสู่ 2.2 ล้านราย โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็ นฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้านธุรกิจลูกค้าองค์กรเน้นบริการเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่กระบวนการดิจิทัลด้วยโครงสร้างพื้นฐานและบริการต่างๆ อาทิ คลาวด์, บริการความปลอดภัยด้านไซเบอร์, บริการด้าน ICTและบริการ 5G และคาดว่าก าไร EBITDA จะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ (low-single digit growth) จากแนวโน้มของรายได้ที่เติบโต การบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมในการตลาด
ด้านงบลงทุนคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 30,000-35,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าที่จะรักษาความเป็นผู้น าในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อเตรียมรับกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่มากขึ้น และมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ลูกค้าด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ที่ดีที่สุด ตลอดจนขยายความครอบคลุมของเอไอเอส ไฟเบอร์ในพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งาน และลงทุนยกระดับธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร