Sundar Pichai ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alphabet Inc. บริษัทผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจิน Google และผลิตภัณฑ์ต่างๆในระดับโลก แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะครั้งแรกในปีนี้ โดยเน้นประเด็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี Web3 ที่จะนำมาผนวกร่วมกันบล็อคเชนซึ่งมีความโดดเด่นที่จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีและการนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
จากการเปิดเผยของ businessinsider กล่าวถึง Sundar Pichai ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alphabet Inc. โดยเขาได้ตอบคำถามเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีของ Alphabet ในอนาคตว่า "ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เราต้องการสนับสนุนอย่างดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ ซึ่งทุกครั้งที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมานั้น ผมคิดว่ามันน่าตื่นเต้น"
ขณะเดียวกันนักลงทุนจำนวนมากได้ทุ่มเงินให้กับบริษัทที่ทำงานบน Web 3 ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของโมเดลอินเทอร์เน็ตที่สร้างขึ้นจากสกุลเงินดิจิทัลและการเป็นเจ้าของทางดิจิทัล โดยบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ มากมาย เช่น Block Inc., Meta Platforms Inc. และ Twitter Inc. ได้ยอมรับเทคโนโลยีดังกล่าวนี้และนำมาใช้ผ่านการทำธุรกรรมต่างๆ อาทิเช่น แผนการชำระเงิน, เหรียญ ,หรือบริการที่รวมโทเค็นดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งในทางกลับกันนั้นปรากฏว่าในส่วนของ Google นั้นส่วนใหญ่แล้วยังไม่มีท่าทีต่อการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ขณะที่ซุนดา พิชัย กล่าวถึงแผนนโยบายในแผนกคลาวด์ของ Google ที่ประกาศไปเมื่อเร็ว ๆ ว่า “บริษัทเรากำลังโฟกัสไปที่บล็อคเชนเพราะเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจและทรงพลังพร้อมการพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ "สินทรัพย์ดิจิทัล” พิชัยกล่าว
นอกจากนี้ Google ยังได้เริ่มทีมของตัวเองที่ทำงานเกี่ยวกับบล็อคเชน
"อาจมีความเป็นไปได้ในอนาคตที่เรา จะเข้าลงทุนในธุรกิจโลกเสมือน เช่น Google map หรือ YouTube เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานสำหรับผู้คนให้สามมารถเข้าถึง อำนวยความสะดวกในรูปแบบต่าง ๆ สนองตอบทั้งการใช้งานและความบันเทิงได้ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางที่หลากหลายทั้งในแบบออนไลน์ และ ออฟไลน์"
ในทางกลับกัน ซุนดา พิชัย กลับเลี่ยงที่จะกล่าวถึง cryptocurrencies ซึ่งปัจจุบันบริษัทไม่ยอมรับสำหรับโฆษณาหรือบริการชำระเงินที่เกี่ยวเนื่องกับ Crypto เนื่องจากอาจกระทบต่อสถานะทางการเงิน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนผู้ถือหุ้น อีกทั้งอาจส่งผลต่อภาพรวมธุรกิจและราคาหุ้นซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นได้
อย่างไรก็ตามด้านมุมมองทางศาสนากลับมีความเห็นแย้งต่อ Web3 โดยได้แสดงมุมมองที่เป็นลบว่า "เป็นพิษทางเทคโนโลยี" สำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบรวมศูนย์เช่น Google
ยกระดับเทคโนโลยีสู๋ Web3 หรือ Web 3.0
Web3 เป็นระบบโครงข่ายที่เน้นความโปร่งใส มีการกระจายอำนาจ และเท่าเทียมกัน ซึ่งโดยหลักการแล้วดีกว่าอินเทอร์เน็ตที่ควบคุมโดยบริษัทขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง โดยจะเป็นการยกระดับไปสู่การใช้งานลำดับถัดไปของอินเตอร์เน็ต ที่มีการปรับโครงสร้างใหม่อย่างสิ้นเชิงเพื่อทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชนและแอพพลิเคชั่นต่างๆ