กระทรวงการคลังของอินเดียประกาศเมื่อวันอังคารว่ารัฐบาลจะเปิดตัวรูปีดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนกับธนาคารกลางของประเทศในไม่ช้า ซึ่งจะมาพร้อมกับอัตราภาษีคริปโตกว่า 30% อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่หวั่นมาตรการภาษีดังกล่าว ชี้ด้วยนวัตกรรมการเงินอนาคตอาจช่วยผลักดันเศรษฐกิจอินเดียนำหน้าประเทศอื่นๆ ไปไกล
จากการเปิดเผยของ marketwatch ระบุถึงถ้อยแถลงของ Nirmala Sitharaman รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ได้ออกประกาศ "Union Budget 2022" แผนการที่จะแนะนำสกุลเงินดิจิทัลในรัฐสภาในวันอังคารนี้ นอกจากนี้ยังประกาศควบคู่กันด้วยว่ารายได้จากธุรกรรมในสินทรัพย์เสมือนจะถูกเก็บภาษีในอัตราที่ 30%
“ผมเสนอให้มีรายได้จากการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลเสมือนใดๆ ที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่อนุญาตให้หักค่าใช้จ่ายหรือค่าเผื่อใด ๆ ในขณะที่คำนวณรายได้ดังกล่าว ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการได้มา” Nirmala Sitharaman กล่าวตามรายงาน
ทั้งนี้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Pankaj Chaudhary รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับข้อเสนอจากธนาคารกลางอินเดียสำหรับการแก้ไขเพื่อขยายคำจำกัดความของ 'ธนบัตร' ให้รวมสกุลเงินดิจิทัล พร้อมกันนี้ในรายละเอียดของการแนะนำการนำสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) มาปรับใช้เป็นระยะ ๆ อีกด้วย
“การนำ CBDC มาใช้มีส่วนสำคัญในการเพิ่มศักยภาพ และให้ผลประโยชน์ที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เช่น การพึ่งพาเงินสดที่ลดลง การกำกับดูแลที่สูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกรรมที่ลดลง ลดความเสี่ยงในการชำระบัญชี นอกจากนี้ การนำ CBDC มาใช้ยังอาจนำไปสู่ตัวเลือกการชำระเงินที่เข้มงวด มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ มีการควบคุม และถูกกฎหมาย” Chaudhary กล่าว
ขณะที่ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของธนาคารกลางของอินเดียด้วยเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ทั่วโลก ที่ได้ประกาศเตือนอย่างสม่ำเสมอถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนและการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล