ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ แม้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะผันผวนตลอดทั้งวัน โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) หลังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2564 แต่ขณะเดียวกัน ก็ถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,429.85 จุด เพิ่มขึ้น 259.55 จุด หรือ +0.99%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,818.94 จุด เพิ่มขึ้น 11.94 จุด หรือ +0.05% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,407.59 จุด เพิ่มขึ้น 13.34 จุด หรือ +0.39%
นักลงทุนในภูมิภาคขานรับปัจจัยบวกจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.5% และเมื่อพิจารณาทั้งปี 2564 ตัวเลข GDP สหรัฐฯ ขยายตัว 5.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า "ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเฟดไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงมากในขณะนี้" โดยถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่า และรุนแรงมากกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 30,000 ราย สู่ระดับ 260,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 270,000 ราย
นอกจากนี้ นักลงทุนในภูมิภาคยังติดตามการรายงานข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค.ของเกาหลีใต้