การเจรจานำหุ้น บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA แลกกับหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ดำเนินมาระยะหนึ่งแล้ว จนผู้ถือหุ้น WEH จำนวน 8.75 ล้านหุ้น ยินยอมแลกหุ้น NUSA จึงแจ้งข่าวให้สาธารณชนรับรู้
หุ้น NUSA จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การแลกหุ้นจะทำให้ผู้ถือหุ้น WEH มีช่องทางการถอนเงินลงทุนคืน เพราะสามารถขายหุ้น NUSA ทิ้งได้ทันทีเมื่อกระบวนการแลกหุ้นเสร็จสิ้น
เพียงแต่ผู้ถือหุ้น WEH จะขายหุ้น NUSA ได้ราคาใดเท่านั้น เพราะราคาบนกระดานแถว 1.50 บาท เป็นราคาที่ถูกลากขึ้นมาจากราคา 39 สตางค์
และเบื้องหลังการลากราคา อาจเกี่ยวโยงกับธุรกรรมการแลกหุ้น WEH ซึ่งเมื่อธุรกรรมบรรลุเป้าหมาย หุ้น NUSA อาจกลับบ้านเก่าก็ได้
WEH มีทุนจดทะเบียนจำนวน 108.83 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท โดยกลุ่มนายณพ ณรงค์เดช และกลุ่มนายประเดช กิตติอิสารานนท์ ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนใกล้เคียงกันคือประมาณ 40% ของทุนจดทะเบียน โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยประมาณ 10%
ผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงเป็นตัวแปรสำคัญในการเผชิญหน้าเพื่อช่วงชิงอำนาจการบริหาร WEH ระหว่างกลุ่มนายณพ และกลุ่มนายประเดช
แม้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะเทเสียงให้กลุ่มนายประเดช จนเข้ายึดอำนาจการบริหารจากกลุ่มนายณพได้
แต่เมื่อนายประเดช ไม่สามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนได้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยอาจกลับมาเทเสียงให้กลุ่มนายณพ อีกครั้ง
นายประเดช จึงต้องการความมั่นใจในการคุมอำนาจบริหาร WEH โดยเปิดเกมแลกหุ้นกับ NUSA ซึ่งจะทำให้ NUSA ซึ่งกลุ่มนายประเดช ถือหุ้นใหญ่ เข้าถือหุ้น WEH ในสัดส่วน 8.04%
รวมแล้วนายประเดช จะถือหุ้น WEH สัดส่วนประมาณ 50% ของทุนจดทะเบียน และมีหลักประกันในการคุมอำนาจบริหาร WEH อย่างเบ็ดเสร็จ
ส่วนกลุ่มนายณพ จะไม่มีที่นั่งในกรรมการบริษัท เว้นแต่จะชนะคดีข้อพิพาทการขายหุ้นจำนวนประมาณ 13% ของทุนจดทะเบียนให้นายประเดช ซึ่งนายณพ ฟ้องขอให้การขายหุ้นเป็นโมฆะ เนื่องจากนายประเดช ไม่ชำระค่าหุ้นให้ครบตามกำหนด โดยคดีคาราคาซังกันอยู่
แต่ถ้าไม่สามารถล้มข้อตกการขายหุ้น WEH จำนวน 13% ได้ นายณพ คงได้แต่เฝ้าตรวจสอบการบริหารงานของกลุ่มนายประเดช ว่า มีความโปร่งใสหรือไม่ สร้างความเสียหายให้บริษัทหรือเปล่า มีการทุจริตหรือไซฟ่อนเงินหรือไม่
WEH มีกำไรปีละประมาณ 5,000 ล้านบาท และปี 2564 จ่ายปันผลรวมหุ้นละ 18 บาท ใครๆ จึงอยากคุมอำนาจการบริหาร
และการแปรธาตุหุ้น WEH เป็นหุ้น NUSA เห็นชัดว่า กลุ่มนายประเดช ได้ประโยชน์ เพราะจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน WEH
แต่ผู้ถือหุ้น WEH ที่นำหุ้นมาแลกกับหุ้น NUSA และผู้ถือหุ้น NUSA จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง
ผู้ถือหุ้น WEH จำนวน 8.75 ล้านหุ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย และต้องการทำกำไรงามๆ เมื่อหุ้น WEH เข้าตลาดหุ้น แต่การผลักดัน WEH เข้าตลาดหุ้นมืดมนเต็มที ซึ่งหากแลกหุ้นจะสามารถนำหุ้น NUSA ขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ทันที
และสัดส่วนการแลกหุ้น 1 หุ้น WEH ต่อ 450 หุ้น NUSA โดยตีราคาหุ้น NUSA ที่หุ้นละ 90 สตางค์ ขณะที่ราคากระดานเคลื่อนไหวอยู่แถว 1.50 สตางค์ ก็จูงใจให้แลกหุ้นเสียด้วย
แต่โจทย์ที่ผู้ถือหุ้น WEH ต้องไตร่ตรองคือ ราคาหุ้น NUSA จะยืนอยู่แถว 1.50 บาทตลอดไปหรือไม่ หรือแม้แต่ราคา 90 สตางค์ ถึงเวลาแล้วจะขายหุ้น NUSA ได้ในราคา 90 สตางค์ได้หรือไม่
เพราะต้องไม่ลืมว่า NUSA ถูกลากขึ้นมาจาก 39 สตางค์ โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานอะไรรองรับ ขณะผลประกอบการบริษัทยังขาดทุนต่อเนื่อง และไม่มีพัฒนาการทางธุรกิจใดๆ ที่ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการจะดีขึ้น
ถ้าราคาหุ้น NUSA กลับที่ 39 สตางค์ ราคาหุ้น WEH ที่นำมาแลกหุ้น NUSA จะมีค่าเพียงหุ้นละ 175.50 บาทเท่านั้น
ผู้ถือหุ้น WEH จะไม่เพียงเสียรู้ แต่จะเสียหายย่อยยับด้วย
ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย NUSA จะต้องแบกรับจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นอีก 3,939 ล้านหุ้น ทำให้ตัวหารผลประกอบการเพิ่มขึ้น ทั้งที่บริษัทมีผลประกอบการที่ขาดทุนอยู่แล้ว
จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นอีก 4,000 ล้านหุ้น จากการแลกหุ้น WEH เมื่อเข้ามาซื้อขาย อาจกดให้ราคาหุ้น NUSA รูดลง และอาจไม่ได้ผุดได้เกิดหรือดีดกลับมาราคาระดับ 1.60 บาทอีก
เกมเล่นแร่แปรธาตุนำหุ้น NUSA มาแลกหุ้น WEH ผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งสองบริษัทจะได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ เวลาเท่านั้นที่เป็นคำตอบ
แต่สำหรับกลุ่มนายประเดช ผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง WEH และ NUSA ตีกินผลประโยชน์ไปก่อนแล้ว
เพราะหุ้นเพิ่มทุน NUSA เป็นเหยื่ออย่างดีในการตกเบ็ดหุ้น WEH อีก 8.04% ทำให้กลุ่มนายประเดช มีหลักประกันกุมอำนาจ WEH อย่างเบ็ดเสร็จ