"อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม" เปิดตัวพันธมิตร ดาต้าเซ็นเตอร์ ยักษ์ใหญ่จากออสเตรเลีย “Etix Everywhere” สำหรับดาต้า เซ็นเตอร์แคมปัสในกรุงเทพฯ หนุน ITEL ขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ให้บริการ Cloud ในต่างประเทศที่ต้องการใช้ไทยเป็นฐานที่ตั้งสำหรับ Data Center โบรกฯ มองหลัง ITEL ผนึกพันธมิตร Data Center ระดับโลก จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายฐานลูกค้าโครงการ “Genesis Data Center” เคาะราคาเป้าหมาย 7.10 บาท
นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับ Etix Everywhere พันธมิตร Data Center ระดับโลกจากออสเตรเลีย เพื่อซื้อหุ้นจากบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ที่ถือหุ้นในเจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์ คิดเป็นร้อยละ 67 เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา
โดยเจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางของกรุงเทพฯ 30 กิโลเมตร ศูนย์รับฝากข้อมูลแห่งนี้จะเป็นพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ผสมผสานระหว่างประสบการณ์เฉพาะด้านของบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) และความรู้ระดับสากลของ Etix Everywhere และฐานลูกค้าของทั้งสองฝ่าย โดยปัจจุบัน เจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์ เฟสแรกมีอัตราการใช้พื้นที่ 85% และบริษัทฯ เตรียมขยายเฟส 2 ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการ 180 racks การที่ GDC เข้ามาซื้อหุ้นจาก AIT และ WHA และกลายเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งระดับโลกของ ITEL ทำให้ ITEL สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ให้บริการคลาวด์ในต่างประเทศที่ต้องการใช้ไทยเป็นฐานที่ตั้งสำหรับ Data center
“บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง Etix Everywhere ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าการเป็นพันธมิตรธุรกิจของทั้งสองบริษัทฯ จะเสริมความแข็งแกร่งและสนับสนุนศูนย์รับฝากข้อมูลและอุตสาหกรรมคลาวด์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเฟื่องฟู และนำพาบริษัทของเราสู่ความสำเร็จร่วมกัน” นายณัฐนัย กล่าว
ล่าสุด “เจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์” ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ETIX Bangkok #1” และตั้งเป้าที่จะขยายดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้เพื่อรองรับลูกค้าในอนาคตได้สูงถึง 2.4 เมกะวัตต์ โดยดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้จะเป็นแห่งแรกที่มีการเข้าถึงของโครงข่ายจากผู้ให้บริการโครงข่าย 4 เส้นทาง และรับไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟที่มาจาก 2 สถานีย่อยที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ การเพิ่มของ Data Usage ไม่ว่าจะเป็นจากการ Digitalize หรือการมาของ Metaverse ในอนาคต ส่งผลให้ดีมานด์ของ Data Center เพิ่มสูงขึ้นเพราะผู้ให้บริการจำเป็นต้องมีแหล่งจัดเก็บข้อมูลที่ใกล้ลูกค้ามากที่สุด
ด้าน มร.หลุยส์ บลองโช (Louis Blanchot) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Etix Everywhere กล่าวว่า บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศการขยายธุรกิจสู่เอเชียโดยเริ่มต้นจากการเข้าซื้อกิจการในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีพลวัตสูงสุดในภูมิภาคนี้ ก้าวแรกดังกล่าวในเอเชียนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ของ Etix Everywhere ในการสนับสนุนลูกค้าทั่วโลกของบริษัทฯ ด้วยการให้บริการจัดสรรพื้นที่สำหรับการจัดวางหรือติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้องค์กรหรือหน่วยงานตลอดจนผู้ใช้งานทั่วไป (Co-Location) ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันสำหรับทุกๆ ที่ที่ลูกค้าต้องการ
ด้วยจำนวนประชากรจำนวนมากและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่ง ประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่สำคัญสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ สาธารณะและผู้ให้บริการผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบเปิด (OTT) ลูกค้าเหล่านี้จำเป็นต้องนำข้อมูลของตนไปให้ใกล้ที่สุดกับผู้ใช้บริการปลายทางเพื่อการให้บริการที่ดีขึ้นซึ่งจะกระตุ้นความต้องการสำหรับการใช้บริการ Co-Location
มร.ปิแอร์ ปาตริส (Pierre Patris) ซีอีโอประจำภูมิภาคเอเชียของ Etix Everywhere กล่าวว่า ลูกค้าของบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการคลาวด์และเนื้อหา (Content) ชั้นนำของโลก จึงมีข้อกำหนดด้าน Co-Location ที่เข้มงวดมาก และเป็นการยากสำหรับลูกค้าของบริษัทฯ ที่จะหาศูนย์ข้อมูลที่ตรงกับมาตรฐานของตนในประเทศไทยที่มีความจุเพียงพอสำหรับการขยายความจุ บริษัทฯ ภูมิใจมากที่ได้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของลูกค้าในที่สุด
อนึ่ง บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ดำเนินการศูนย์รับฝากข้อมูลรายใหญ่ในประเทศไทยที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประวัติที่ประสบความสำเร็จครอบคลุมทั่วประเทศ จุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศ และศูนย์ข้อมูล 2 แห่งEtix Everywhere เป็นผู้ให้บริการ Colocation ผ่านเครือข่ายศูนย์ข้อมูลทั่วโลก Etix Everywhere มุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้ายุโรป ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีศูนย์ข้อมูล 8 แห่ง และจำนวนลูกค้ามากกว่า 250 ราย
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จากัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่ ITEL จับมือพันธมิตรระดับโลก Global Data Center Group เตรียมดึงผู้ประกอบการ Cloud operator ต่างประเทศเข้ามาใช้ Genesis Data Center ของบริษัท หนุนให้ผลประกอบการพลิกฟื้น นอกจากนี้ การเพิ่มทุน 2% เพื่อแลกกับหุ้น 51% ของ Blue Solution (BS) เปิดโอกาสให้ ITEL รับงาน SI ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับของบริษัท รวมทั้งใช้ผลงานของ BS ในการเข้าร่วมประมูลงานในโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน
ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 2565-2566 ขึ้น 5-10% เป็นเติบโตสูง 33.0% YOY ในปี 2565 และเติบโต 32.4% Y-Y ในปี 2566 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 32.7% CAGR และมี Net margin 10.3% และ 12.1% ตามลำดับ เข้าใกล้เป้าที่บริษัทตั้งไว้ Net margin 15% ภายในปี 2569 ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.10 บาท จากเดิม 6.30 บาท โดยปรับ PE ขึ้นเป็น 32 เท่าจากเดิม 24 เท่า จากการปรับ PEG ขึ้นเป็น 1 จาก 0.8 ราคาเป้าหมายดังกล่าวรวมการใช้สิทธิของ ITEL-W3 ไว้แล้วเป็นส่วนใหญ่ ยังคงแนะนำ “ซื้อ”