นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ประชาชน ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน ก.พ.-เม.ย.65 โดยรูปแบบการดำเนินโครงการ ฯ ยังเหมือนเดิม คือ ภาครัฐร่วมชำระค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าและบริการทั่วไปในอัตรา 50% ไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 1,200 บาท/คนทั้งโครงการฯ
ที่ประชุมมีความเห็นพิจารณาปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 ก.พ.65 จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 21 ก.พ.65 โดยมีกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 29 ล้านคน และร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการฯ
ผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้วประมาณ 28 ล้านคน สามารถยืนยันตัวตนและเริ่มใช้สิทธิตั้งแต่ 1 ก.พ. เปิดสิทธิเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิให้สำหรับผู้สนใจและยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ โดยเปิดลงทะเบียนในวันที่ 10 ก.พ.นี้ จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ โดยจะสามารถใช้สิทธิโครงการฯ ได้ตั้งแต่ 17 ก.พ.นี้
"โครงการคนสะครึ่ง เฟส 4 มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไข รวมทั้งมีการขยับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการฯ ให้เร็วขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์บรรเทาค่าครองชีพในภาวะปัจจุบันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยคำนึงถึงการใช้งบประมาณ อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมด้วย" นายธนกร กล่าว
นอกจากนั้น ที่ประชุม ครม.ยังมีมติเห็นชอบ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 8,070.724 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 กรอบวงเงิน 1,351.981 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการ ความช่วยเหลือเป็นพิเศษในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน ก.พ.-เม.ย.65
ครม.ให้พิจารณาปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 ก.พ.65 จากเดิม ที่กำหนดไว้ในวันที่ 21 ก.พ.65 เพื่อให้ภาครัฐสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ถือบัตรในโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน (ณ วันที่ 25 ม.ค.65) และ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 จำนวน 2.25 ล้านคน ให้สามารถซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า ร้านค้า หรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ไม่เกิน 200 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. รวมทั้งสิ้น 600 บาท/คน ตลอดระยะเวลาโครงการ
ทั้งนี้ ได้มีการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของโครงการมห้สอดคล้องกับการปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในสถานการณ์ในปัจจุบันที่ค่าครองชีพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงยังได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการกำกับและติดตามการดำเนินโครงการ เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการดำเนินโครงการโดยมิชอบได้ เช่น ร้านค้าที่รับสแกนสิทธิแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดอีกด้วย