xs
xsm
sm
md
lg

GULF บุก...สงคราม “คริปโต” ระอุ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่งประกาศนโยบายขยายการลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี แต่บริษัทจดทะเบียนที่สร้างความฮือฮามากที่สุดคือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

บริษัทยักษ์ในกลุ่มโรงไฟฟ้า หรือ GULF ประกาศข้อตกลงความร่วมมือกับ BINANCE ผู้ค้าคริปโตเคอร์เรนซียักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลก ในการศึกตั้งศูนย์ซื้อขายเงินดิจิทัลในประเทศไทย

การเปิดตัวพันธมิตรของ GULF สร้างความสั่นสะเทือนแก่ผู้ค้าคริปโตในประเทศไทยที่มีอยู่ 7 บริษัทในทันที เพราะการมาของ BINANCE จะทำให้การแข่งขันดุดเดือดขึ้น โดยเฉพาะบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ BITKUB บริษัทผู้ค้าคริปโตรายใหญ่สุดของประเทศไทย

BITKUB มีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายคริปโตประมาณ 3.4 ล้านบัญชี มูลค่าการซื้อขายคริปโตปี 2564 กว่า 1 ล้านล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาด หรือมาร์เกตแชร์ประมาณ 98% ของมูลค่าการซื้อขายคริปโตทั้งหมดในประเทศไทย

กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศเข้าถือหุ้นในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด สัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียน วงเงินลงทุน 17,850 ล้านบาท โดยจะทำให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ก้าวเข้ามาเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในธุรกิจคริปโต

แต่การมาของ BINANCE กำลังทำลายความฝันการเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจคริปโตของกลุ่มไทยพาณิชย์ และจะทำให้บริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่งที่ขยายฐานรายได้มาในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เกิดความยากลำบากในการแข่งขันมากขึ้น

เพราะ BINANCE เป็นผู้ค้าคริปโตที่ทั่วโลกยอมรับ มีประสบการณ์ยาวนานกว่า มีระบบงานที่พร้อม มีความเชี่ยวชาญกว่า และเมื่อผนวกกับ GULF ซึ่งมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง และพร้อมจะวิ่งทันทีที่เปิดตัวดำเนินธุรกิจ

บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนเจ้าแรกๆ ที่ประกาศลุยธุรกิจคริปโต คงไม่ง่ายแล้วที่จะเติบโตในธุรกิจการเงินยุคใหม่ และราคาหุ้นก็ทรงๆ ทรุดๆ มาพักใหญ่แล้ว

ขณะที่ BITKUB ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการช่วงชิงมาร์เกตแชร์คริปโต ไม่รู้ว่าจะสามารถรักษาแชมป์ผู้ค้าคริปโตที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่งอีกยาวนานเท่าไหร่ และสมบัติต้องผลัดกันชมหรือไม่

เพราะเมื่อ GULF บุก BINANCE ปักธงในประเทศไทย อาจเป็นการเริ่มต้นเวลานับถอยหลังของ BITKUB

BINANCE ไม่ได้มาเพียงชื่อเสียง ไม่ได้มีเพียงประสบการณ์ความเชื่ยวชาญทางธุรกิจ แต่จะมาพร้อมกลยุทธ์ในการแข่งขัน โดยเฉพาะการเปิดสงครามการตัดราคาค่าธรรมเนียมซื้อขายคอยน์สกุลต่างๆ ของโลก

การแข่งขันธุรกิจคริปโตของผู้ค้าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกับการแข่งชันของบริษัทนายหน้าซื้อขายหุ้นหรือโบรกเกอร์ ซึ่งปัจจุบันแข่งขันตัดราคากันอย่างหนัก จนบางโบรกเกอร์คิดค่านายหน้าซื้อขายหุ้นในอัตราเพียง 0.03% ของมูลค่าซื้อขายหุ้น 1 ล้านบาท คิดค่านายหน้าเพียง 300 บาท

BITKUB คิดค่านายหน้าซื้อขายคริปโตในอัตรา 0.25% ซึ่งถือว่าสูง และทำให้มีกำไรอู้ฟู่ เติบโตก้าวกระโดดปีละนับ 1,000% หลายปีติดต่อ แต่เมื่อ BINANCE เข้ามา BITKUB จะต้องปรับตัวสู้ ลดค่านายหน้าลง และจะทำให้กำไรลดลง

เพราะมาร์เกตแชร์ถูกแย่ง ค่านายหน้าคริปโตก็โขกจากลูกค้าไม่ได้เต็มที่เหมือนปัจจุบัน

ถ้าย้อนเวลาได้ ไม่รู้ว่าธนาคารไทยพาณิชย์ จะทบทวนการลงทุนใน “บิทคับ ออนไลน์” หรือไม่ เพราะราคาหุ้นที่เจรจาซื้อมาไม่น่าจะเป็น “ของถูก” แล้ว และเงินลงทุน 17,850 ล้านบาท ไม่อาจคำนวณได้ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานกี่ปีจึงคุ้มทุน

การบุกของ GULF เป็นการจุดชนวนสงครามธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซีให้ร้อนระอุ สร้างความสั่นสะเทือนให้ผู้ค้าคริปโตทั้งเจ้าเก่าและรายที่กำลังแจ้งเกิดใหม่

และยังส่งผลกระทบต่อหุ้นที่โหนกระแสคริปโตด้วย เพราะหมดจุดขาย ไม่อาจคุยโวถึงการรุกธุรกิจคริปโตได้ ราคาจึงเริ่มเหี่ยวเฉาลงกันเป็นแถว








กำลังโหลดความคิดเห็น