จิตตะ เวลธ์ เผยปี 2564 ผลตอบแทนลงทุนในหุ้นรายประเทศพุ่งแรงด้วยเทคโนโลยีระดับโลก พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติ โดย Jitta Ranking เวียดนาม ยังครองความเป็นหนึ่งด้วยผลตอบแทน 68.72% ซีอีโอย้ำ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนา AI และออกแบบอัลกอริทึมล่าสุด เฟ้นหา ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ ได้แม่นยำยิ่งขึ้น และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าเดิม
นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) เปิดเผยว่า ปี 2564 เป็นปีที่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกยังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกกลับเดินหน้า เพราะทุกประเทศสามารถปรับตัวรับมือกับการระบาดรอบใหม่และเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ รวมทั้งอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจเกือบทุกประเทศพลิกกลับมาเป็นบวก และโตในอัตราที่สูง จากฐานปี 2563 ที่ทรุดหนักเกือบทั่วโลก ขณะเดียวกัน ดัชนีตลาดหุ้นพลิกกลับมาเป็นบวก บางตลาดสามารถทำสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่องภายในปีเดียว บ่งชี้ว่า ทุกประเทศทั่วโลกผ่านประสบการณ์และบทเรียนจากการระบาดรอบแรก รู้วิธีการรับมือแก้ปัญหาเมื่อมีการระบาดรอบใหม่ๆ ขณะที่ประชาชนสามารถใช้ชีวิตและดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี
สำหรับ AI อัลกอริทึมของ บลจ.จิตตะ เวลธ์ จำกัด ยังทำงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยนโยบายการลงทุนของกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ที่นำผลวิเคราะห์หุ้นทั้งหมดในแต่ละประเทศมาจัดอันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก น่าลงทุน’ ตามหลักการ Warren Buffett โดยจะดูจาก 3 ปัจจัยหลักๆ ได้แก่ คุณภาพของธุรกิจ มูลค่าที่เหมาะสม และโอกาสเติบโตสร้างกำไรของธุรกิจ จากนั้นจะเลือกหุ้นที่น่าลงทุนที่สุดตามการจัดอันดับ ระบบจะซื้อหุ้นแต่ละตัวในสัดส่วนใกล้เคียงกันเพื่อกระจายความเสี่ยง และรีวิวหุ้นปรับพอร์ตทุกๆ 3 เดือน นับจากวันที่เริ่มลงทุน
สำหรับปี 2564 ที่มีการลงทุนตั้งแต่ต้นปี ผลตอบแทนของ Jitta Ranking ลงทุนในหุ้นแต่ละประเทศไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม สหรัฐฯ จีน และไทย สามารถเอาชนะดัชนีตลาดหุ้นประเทศเหล่านั้นได้ ไม่ทำให้นักลงทุนที่ลงทุนกับ จิตตะ เวลธ์ ผิดหวัง โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม ยังคงสร้างผลงานที่ดีที่สุด ครองความเป็นหนึ่งด้วยผลตอบแทนโตโดดเด่นถึง 68.72% เมื่อเทียบกับผลตอบแทนรวมตลาดหุ้นเวียดนาม (VNTRI) ที่ 37.31% ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดของปี 2564 และเป็นหนึ่งใน 7 ตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในปี 2564 จากปัจจัยพื้นฐานของประเทศที่แข็งแกร่ง การย้ายฐานการผลิตของบริษัทระดับโลก ภาคการส่งออกที่เติบโต และภาคการบริโภคที่ขยายตัว ขณะที่ตลาดหุ้นกำลังทะยาน แม้จะประสบกับโรคระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามทำนิวไฮตลอดทั้งปี 2564
สำหรับแนวโน้มของตลาดหุ้นเวียดนามในปี 2565 นั้น มีแนวโน้มการเติบโตดี ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจเวียดนามเติบโต 6-6.5% อีกทั้งความขัดแย้งและกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้เวียดนามกลายเป็นแหล่งห่วงโซ่อุปทานทางเลือก ส่งเสริมภาคการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคการผลิตในหารขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การปรับโครงสร้างตลาดหุ้นเวียดนามจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบ และสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ที่สำคัญ ตลาดหุ้นเวียดนามอุดมไปด้วยหุ้นดีที่ราคายังไม่แพง เพราะเฉพาะการลงทุนโดยเน้นหุ้นรายตัว สามารถทำกำไรให้กับนักลงทุนได้ในปี 2565 นี้
Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ทำผลงานปีที่แล้วได้ 49.99% เทียบกับผลตอบแทนรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ที่ 28.71% บริษัทจดทะเบียนได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศและความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มมากขึ้นของผู้บริโภค รายได้เติบโต กำไรปรับตัวสูงขึ้น ดันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั้งดัชนี Dow Jones ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวทำสถิติสูงสุดในปี 2564
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปี 2565 นั้น นักลงทุนยังคงกังวลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ การสิ้นสุดมาตรการ QE ภายในไตรมาสที่ 1 การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อสูงในรอบ 40 ปี ปัญหาคอขวดอุปทานไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ล้วนเป็นปัจจัยกระทบภาพการลงทุนในปี 2565 ดังนั้นการเลือกลงทุนควรเน้นลงทุนหุ้นรายตัว ธุรกิจมีความสามารถทางการแข่งขันสูง มีศักยภาพในการเติบโตและราคายุติธรรม
Jitta Ranking จีน ที่เปิดตัวเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2564 มีผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง 6.57% สามารถเอาชนะดัชนีตลาดหุ้นจีน (CSI300) ที่มีผลตอบแทนรวม -3.03% ทั้งๆ ที่ตลาดหุ้นจีนได้รับแรงกดดันจากการตรวจสอบธุรกิจของรัฐบาลจีน ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี รวมไปถึงวิกฤตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นจีนผันผวน นักลงทุนหลีกเลี่ยงที่จะลงทุน
สำหรับแนวโน้มของตลาดหุ้นจีนปีนี้ส่งสัญญาณการเติบโตอย่างชัดเจน จากมูลค่าการลงทุนเมกะโปรเจกตฺสูงถึง 3 ล้านล้านหยวน รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนในพลังงานสะอาด คาดปริมาณการติดตั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 97 กิกะวัตต์ คิดเป็น 40% ของปริมาณติดตั้งทั่วโลก ฐานะทางการเงินภาคอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคง ส่งผลให้สถาบันการเงินหลักของโลกหลายแห่งมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีนในปี 2565
Jitta Ranking หุ้นไทย ให้ผลตอบแทนปี 2564 เติบโต 38.41% ในขณะที่ผลตอบแทนรวมของตลาดหุ้นไทย (SET TRI) อยู่ที่ 17.67% แม้ว่าตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นต้นมา และเศรษฐกิจภายในประเทศจะได้รับผลกระทบหนัก แต่บริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการผลักดันดัชนีตลาดหุ้นไทย มูลค่าการส่งออกไทยตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2564 เพิ่มขึ้น 16.4% แตะระดับ 2.46 แสนล้านดอลลาร์ ภาคการท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2565 ยังคงเผชิญกับความผันผวนสูง โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศเกิดการชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่บริษัทที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน มีการกระจายแหล่งรายได้จากต่างประเทศ มีรายได้จากการส่งออก จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในปี 2565
“จะเห็นได้ว่าในปี 2565 ยังมีปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในบางประเทศ การลงทุนมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ตลาดหุ้นประกอบด้วยปัจจัยแวดล้อมมากมาย ทั้งที่สามารถคาดเดาได้และคาดเดาไม่ได้ ยังไม่นับภาวะอารมณ์ของนักลงทุนที่ทำให้ดัชนีผันผวนในระยะสั้นๆ ด้วย เราจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการลงทุนอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนระยะสั้น หรือจากอคติและอารมณ์ของนักลงทุน สุดท้ายมูลค่ากิจการและราคาหุ้นระยะยาว จะสะท้อนพื้นฐานของหุ้นที่คุณลงนั่นเอง” นายตราวุทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังศึกษาตลาดหุ้นอื่นๆ ที่น่าสนใจและมีการเติบโตได้ดี เพื่อที่จะนำเสนอการลงทุน Jitta Ranking ให้กับนักลงทุนต่อไปในปี 2565 เช่น ฮ่องกง ที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจของเอเชีย และตลาดหุ้นญี่ปุ่น ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งทั้งตลาดหุ้นฮ่องกงและญี่ปุ่นนั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากตลาดจะใหญ่ระดับ Top 5 ของโลกแล้ว ยังมีหุ้นของธุรกิจขนาดเล็กที่น่าสนใจ เป็นหุ้นดี ราคาถูกจำนวนมาก