xs
xsm
sm
md
lg

YLG มองตลาดคริปโตปรับฐาน นักลงทุนวิตกเงินเฟ้อส่งผลเม็ดเงินไหลเข้าทอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วายแอลจีมองระยะสั้นทองฟื้น แม้มีปัจจัยลบสำคัญจากเฟดที่เตรียมเร่งขึ้นดอกเบี้ยและลดงบดุล แต่มีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-รัสเซีย กรณีข้อพิพาทยูเครน และตลาดคริปโตปรับฐาน และความวิตกเงินเฟ้อ ส่งผลเงินเริ่มไหลเข้าทองคำ หนุนคนไทยสนใจลงทุนฟิวเจอร์สต่างประเทศเพิ่ม เหตุเทรดได้ 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดไทย ทั้ง COMEX Gold, NYMEX Oil, S&P500, Dow Jones Nasdaq รวมไปถึง Crypto เผยได้รับการตอบรับจากนักลงทุนไทยคับคั่งหลัง YLG futures ร่วมมือ CME Group ตลาดอนุพันธ์อันดับหนึ่งที่มีภาพคล่องสูงที่สุดในโลก เพิ่มช่องทางนักลงทุนไทยมุ่งสู่ตลาดโลกโดยไม่ผ่านกองทุน บริหารจัดการพอร์ตด้วยตัวเอง

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะสั้นและระยะกลางยังเป็นแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง โดยในระยะสั้นเป็นลักษณะของการฟื้นตัว หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งถอนนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในแง่ของการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุล ซึ่งส่งผลกดดันราคาทองจนลดลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,782 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ต้นสัปดาห์นี้ราคาทองคำสามารถกลับมายืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ เนื่องจากนักลงทุนรับรู้ปัจจัยลบไปแล้วบางส่วน อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดของสหรัฐฯ และรัสเซีย รวมถึงความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ จึงส่งให้นักลงทุนบางส่วนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของสินทรัพย์อื่นๆ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะคริปโตเคอร์เรนซี ที่ปรับฐานในช่วงนี้ ส่งผลให้มีเงินลงทุนบางส่วนไหลเข้าตลาดทองคำ อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุนในช่วงนี้แนะนำให้เก็งกำไรในระยะสั้น เนื่องจากการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันทองคำ โดยมองแนวต้านแรกที่ 1,821 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากราคาทองคำปรับขึ้นไปทะลุแนวต้านดังกล่าว จะมีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,830 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยเป็นจุดที่ต้องระวังแรงขายทำกำไร จึงแนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน ส่วนแนวรับมองที่ 1,782- 1,776 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนในรูปของเงินบาท มองแนวต้านที่ 28,950 บาท แนวรับที่ 28,200 บาท

อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปีนี้สัญญาณการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยปัจจัยหนุนที่ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนมองหาทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดคริปโตมีการปรับฐาน นอกจากนี้ การลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศยังเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่หลากหลายเพราะครอบคลุมทั้งการลงทุนใน ทองคำ น้ำมันดิบ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง S&P500, Dow Jones Nasdaq รวมถึง cryptocurrency สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้งสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย

YLG ได้ร่วมมือกับ CME Group เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เทรดผ่าน YLG futures สามารถเข้าถึงทุกสินค้าของ CME Group ทุกบริการ เช่น Precious Metal futures, Oil futures, Cryptocurrency futures, Forex futures ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งกองทุนสถาบันในการเข้าไปซื้อขายสินค้า พร้อมเชื่อมต่อ Exchange ทั่วทั้งโลกไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ รวมถึงเพิ่มโอกาสทำกำไรแบบไร้ขีดจำกัด ผ่าน Cryptocurrency เช่น Bitcoin Futures ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการซื้อขาย BTC futures ทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรสามารถ hedging ความเสี่ยง หรือเทรดได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง และยังสามารถเทรด Bitcoin futures ด้วยขนาดสัญญาที่เล็กลงได้ด้วย และ Micro bitcoin futures ด้วยขนาดที่เล็กกว่า 1 ใน 10 ของ bitcoin futures ซึ่งจะทำให้นักลงทุนใช้เงินวางหลักประกันที่ต่ำกว่า ทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรสามารถจัดการกับความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งพบว่านักลงทุนให้การตอบรับดีเกินคาด


กำลังโหลดความคิดเห็น