หุ้นไทยร่วง -23.76 จุด นักวิเคราะห์ชี้เฟดสั่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย-ปรับลดขนาดงบดุล นักลงทุนกังวลกระทบสภาพคล่อง ประเมินแนวรับพรุ่งนี้ที่ 1,645-1,650 จุด และแนวต้านที่ 1,665-1,670 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 มกราคม 2565 ปรับตัวลดลงกว่า -23.76 จุด หรือ -1.42% โดยปิดที่ 1,653.03 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 106,477.92 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ดัชนีแกว่งตัวเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งปรับตัวทำระดับสูงสุดที่ 1,666.22 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,653.03 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 392 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 288 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,467 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 6,306.82 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 1,046.32 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -4,629.83 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,723.31 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,036.35 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
2.EA มูลค่าการซื้อขาย 4,323.57 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,745.87 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
4.KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,625.71 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
5.CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,542.29 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BLA ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 5.19%
2.BCH ปิดที่ 20.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ 6.63%
3.KKP ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.63%
4.TU ปิดที่ 20.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 1.99%
5.CPF ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.94%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 382.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ 1.55%
2.ADVANC ปิดที่ 221.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 2.21%
3.BH ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 3.26%
4.KCE ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 5.08
5.HANA ปิดที่ 82.50 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 4.62%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,251.78 จุด ลดลง -39.93 จุด หรือ -1.74% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 983.71 จุด ลดลง -18.90 จุด หรือ -1.89% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 619.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.44 จุด หรือ 0.23%
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมทั้งระบุว่าจะปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ทันทีที่ขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้มีความกังวลสภาพคล่องที่อาจจะหายไป ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะปรับตัวลดลงหลังจากที่พักฐานค่อนข้างรุนแรงไปแล้วในวันนี้ โดยยังคงต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศที่เร่งตัวขึ้น โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,645-1,650 จุด และแนวต้านที่ 1,665-1,670 จุด
