แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกส่ง 4 สัญญาณบวกหลังปีใหม่ 2565 ถือเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนหุ้นค้าปลีกตัวท็อปอย่าง Makro
สัญญาณบวกแรก คือ โมเมนตัมของการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sale Growth หรือ SSSG) มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องดีกว่าปีที่ผ่านมา สวนทางกับการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่
นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะกลุ่มธุรกิจ HoReCa (ธุรกิจโรงแรม (Hotel) ร้านอาหาร (Restaurant) กาแฟและธุรกิจจัดเลี้ยง (Café and Catering) เริ่มกลับมาประกอบธุรกิจได้ โดยคาดการณ์ผลประกอบการแม็คโคร-โลตัสส์ตลอดปี 2564 มีแนวโน้มกำไรไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท นำมาซึ่งการปันผลไม่ต่ำกว่า 40-50% โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักกว่าปี 2564 แต่ปรากฏว่าแม็คโครยังเติบโตได้ถึง 2.7% สามารถปิดยอดรายได้ที่ 1.66 แสนล้านบาท ส่วน EBITDA เติบโตในสัดส่วนเดิมแม้จะมีค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันให้พนักงาน ลูกค้า ปลอดภัย การขนส่งสินค้าไม่สะดุด แต่ยังรักษากำไรสุทธิเติบโตถึง 4% ในปี 2564 เมื่อรวมโลตัสส์ยอดรายได้เติบโตเกือบ 100% ถือว่าเติบโตมากกว่าก้าวกระโดด เติบโตจาก 2.18 แสนล้านบาท เป็นเกือบ 4.3 แสนล้านบาท
สัญญาณบวกที่ 2 คือ การลดต้นทุนจากการผนึกกำลังลดขึ้นตอนซ้ำซ้อน โดยคาดว่า อานิสงส์จากการควบรวมแม็คโคร-โลตัสส์ ส่งผลให้ต้นทุนลด 2% และคาดการณ์หากโอมิครอนจบเร็วจะเป็นปัจจัยหนุนให้ค้าปลีกฟื้นตัว มีโอกาสและศักยภาพในการทำกำไรเพิ่มขึ้นหลังรับโอนกิจการโลตัสส์ ซึ่งจะผลักดันให้มาร์จิ้นของแม็คโครดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะทั้ง 2 กิจการสามารถสร้าง Sharing Cost กันได้ และเกิด Economy of Scale ทันทีโดยที่ยังไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม และหลังรับโอนกิจการโลตัสส์แล้วจะทำให้แม็คโครเป็นกิจการค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
สัญญาณบวกที่ 3 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และผ่านช่วงวิกฤตสูงสุดมาแล้ว จะเห็นได้ว่า ผลกระทบโควิด-19 ในปี 2564 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเติบโตลดลง โดยติดลบ 6% แต่แม็คโครเติบโตถัวเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง 9% และมองว่าในปี 2565 จะเป็นช่วงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศไทย ดังนั้น โอกาสในการฟื้นตัวของแม็คโครจึงดีขึ้นด้วย โดยปัจจุบันตลาดประเมินมูลค่าหุ้นแม็คโครด้วยบริบทของเศรษฐกิจปี 2564 ซึ่งเป็นขาลงและถูกดดันจากความเสี่ยงเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตอนนี้เป็นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจไทยและน่าจะผ่านวิกฤตโควิด-19 แล้ว จึงมั่นใจว่าจากนี้ไปจะเป็นช่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
สัญญาณบวกที่ 4 ออนไลน์กับออฟไลน์ (Online to Offline หรือ O2O) โต 3 เท่า ขยายธุรกิจแบบ O2O โดยใช้ระบบออนไลน์เข้ามาช่วยจะทำให้เกิดการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก หลังจากแม็คโคร และโลตัสส์เข้ามาดำเนินธุรกิจร่วมกัน ทำให้มีการผสานธุรกิจทางด้าน B2B และ B2C เข้าด้วยกัน สร้างความแข็งแกร่งของกลุ่มลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาด้านการขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่จะมีการรุกขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง