xs
xsm
sm
md
lg

ศก.ไทยแนวโน้มฟื้น ห่วง “เงินเฟ้อ-โอมิครอน” กดดัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นต่อเนื่อง คาดปี 65 ขยายตัวที่ 3.4% หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการต่อเนื่อง หนุนการขยายตัวในภาพรวม ขณะคลังเน้นการฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจ อันจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รายได้ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง และให้ติดตามภาวะเงินเฟ้อ และโอมิครอนมีผลกดดันต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นชั่วคราวจากราคาพลังงานเพิ่มเป็นหลัก แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการเงินเฟ้อโลกและการส่งผ่านต้นทุน ทั้งนี้ การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมในระยะข้างหน้า

ทั้งนี้ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม จึงเห็นให้คงอัตราดอกเบี้ยนโนบายไว้ ประกอบกับมาตรการทางการเงินการคลังที่มีความต่อเนื่องเน้นการฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รายได้ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง

โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 0.9% ในปี 2564 และจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 ที่ 3.4% และ 4.7% ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและนักท่องเที่ยวที่จะทยอยกลับมามากขึ้น อันจะทำให้มีการฟื้นตัวในหลายสาขาธุรกิจมีแนวโน้มปรับดีขึ้น สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี ประเมินว่าการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนจะกระทบเศรษฐกิจในช่วงแรกของปี 2565 โดยยังมีความเสี่ยงด้านอื่นที่มีผลกระทบอาจรุนแรงและยืดเยื้อกว่า คาดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดและความเข้มงวดของมาตรการควบคุม แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลาง คาดว่าจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2564 2565 และ 2566 จะอยู่ที่ 1.2% 1.7% และ 1.4% ตามลำดับ

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นชั่วคราว จากปัจจัยด้านอุปทาน โดยเฉพาะราคาพลังงานซึ่งคาดว่าจะคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ทั้งนี้ โอกาสที่แรงกดดันเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องยังมีไม่มากจากความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการอย่างที่มีอยู่อย่างจำกัด จากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ยังเปราะบาง ขณะที่คณะกรรมการประเมินว่ายังมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าคาดในบริบทที่เงินเฟ้อโลกปรับสูงขึ้นเร็วโดยจะติดตามพัฒนาการของปัจจัยข้างต้นอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินโดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ไปจนถึงปลายไตรมาสที่ 1/2566 เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัว ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอและให้ความสําคัญต่อเสถียรภาพและการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจเป็นสําคญมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ การระบาดของโอมิครอนเป็นปัจจัยเสี่ยงเดียวที่ส่งผลต่อเสถียรภาพและการขยายตัวภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่การฉีดวัคซีนทั่วประเทศและยาต้านไวรัสจะเป็นปัจจัยหลักที่ลดความรุนแรงของการระบาดครั้งใหม่และลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ในระดับปานกลาง


กำลังโหลดความคิดเห็น