xs
xsm
sm
md
lg

แรงหนุนกองทุน SSF-RMF ดันหุ้นไทยปิด +11.81 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +11.81 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดคลายกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน SSF และ RMF และ Window Dressing เข้ามาช่วยดันดัชนีบวกแรง ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,640 จุด และแนวต้านที่ 1,660 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +11.81 จุด หรือ +0.72% โดยปิดตลาดที่ 1,653.33 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 72,564.80 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายวันนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวันโดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,654.98 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,641.75 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 849 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 656 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 641 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 6,131.72 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 574.98 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -5,326.79 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,379.92 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,589.88 ล้านบาท ปิดที่ 414.00 บาท ลดลง 26.00 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,864.86 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,415.10 ล้านบาท ปิดที่ 127.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
4.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,289.13 ล้านบาท ปิดที่ 96.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,726.82 ล้านบาท ปิดที่ 61.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.78%
2.SCC ปิดที่ 388.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 1.57%
3.EA ปิดที่ 96.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 3.49%
4.SCB ปิดที่ 127.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.41%
5.AEONTS ปิดที่ 189.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.07%

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 414.00 บาท ลดลง 26.00 บาท หรือ 5.91%
2.HANA ปิดที่ 89.25 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.65%
3.SINGER ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.42%
4.RBF ปิดที่ 22.30 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 4.29%
5.TQM ปิดที่ 96.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 0.77%

ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,261.52 จุด เพิ่มขึ้น 14.54 จุด หรือ 0.65% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 989.30 จุด เพิ่มขึ้น 6.82 จุด หรือ 0.69% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 577.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.50 จุด หรือ 1.14%

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดยุโรปแกว่งลบเล็กน้อยลักษณะทรงตัว หลังจากคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ไม่รุนแรงเหมือนสายพันธุ์อื่น และคาดหวังเศรษฐกิจปีหน้าจะฟื้นตัวขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยมีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัว อย่างกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะ CPF หลังราคาหมูปรับตัวสูงขึ้น กลุ่มโลจิสติกส์ปรับขึ้นจากความคาดหวังผลประกอบการงวดไตรมาส 4/64 จะออกมาดี และกลุ่มแบงก์ปรับขึ้นด้วย มองแล้วเป็นการกระจายกลุ่มปรับขึ้น นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน SSF และ RMF ด้วย ส่วนการทำ Window Dressing ก็น่าจะมีเข้ามาบ้างเช่นกัน

อย่างไรก็ดี สิ่งที่นักลงทุนควรติดตามได้แก่ปัจจัยต่างประเทศด้านจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของจีน ซึ่งจะออกมาในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งตัว เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา และวอลุ่มเทรดคงจะเบาบางเนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของปี โดยประเมินแนวรับที่ 1,640 จุด และแนวต้านที่ 1,660 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น