หุ้นไทยปิดพุ่ง 11.81 จุด ดีกว่าต่างประเทศ รับแรงหนุน SSF-RMF ผสม Window Dressing สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดตลาดคงจะแกว่งตัวเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา และวอลุ่มเทรดคงจะเบาบางเนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของปี
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดยุโรปแกว่งลบเล็กน้อยลักษณะทรงตัว หลังจากคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ไม่รุนแรงเหมือนสายพันธุ์อื่น และคาดหวังเศรษฐกิจปีหน้าจะฟื้นตัวขึ้นได้
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเรามีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัว อย่างกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะ CPF หลังราคาหมูปรับตัวสูงขึ้น กลุ่มโลจิสติกส์ปรับขึ้นจากความคาดหวังผลประกอบการงวดไตรมาส 4/64 จะออกมาดี และกลุ่มแบงก์ปรับขึ้นด้วย มองแล้วเป็นการกระจายกลุ่มปรับขึ้น นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน SSF และ RMF ด้วย ส่วนการทำ Window Dressing น่าจะมีเข้ามาบ้างเช่นกัน
อย่างไรก็ดี แนะติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของจีน ซึ่งจะออกมาในวันที่ 31 ธ.ค.นี้
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,653.33 จุด เพิ่มขึ้น 11.81 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.72% มูลค่าการซื้อขาย 72,564.80 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งตัว เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา และวอลุ่มเทรดคงจะเบาบางเนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของปี
