หุ้นบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS มีข่าวดีออกมาหนุนอีกจนได้ โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติ ลงทุนเพิ่มเติมในเหมืองขุดบิตคอยน์ วงเงิน 3,300 ล้านบาท กระตุ้นให้ราคาหุ้นคึกคักขึ้นอีกครั้ง
คณะกรรมการ JTS มีการประชุมเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีมติที่สำคัญคือ การลงทุนเพิ่มเติมในเหมืองขุดบิตคอยน์ โดยจะสั่งซื้อเครื่องขุดจำนวนประมาณ 6,300 เครื่อง ในปี 2565 และการออกหุ้นกู้วงเงิน 4,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ JTS ได้สั่งซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ และเริ่มดำเนินการขุดแล้ว 300 เครื่อง
ราคาหุ้น JTS พุ่งขึ้นต้อนรับข่าวการลงทุนเพิ่มในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ในทันที โดยเมื่อวันอังคารที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ทะยานขึ้นมาปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 9 บาท หรือเพิ่มขึ้น 7.17% มูลค่าซื้อขาย 93.60 ล้านบาท
ปีนี้ JTS คว้าแชมป์ครองตำแหน่งหุ้นร้อนแรงที่สุด จากราคาปิดที่ 1.83 บาท เมื่อวันที่ 4 มกราคม แต่พุ่งขึ้นมาปิดที่ 134.50 บาท เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม โดยปรับตัวขึ้น 132.67 บาท หรือเพิ่มขึ้น 7,249.72%
หุ้นที่ร้อนแรงเป็นอันดับ 2 คือ หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ซึ่งเปลี่ยนชื่อจากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC โดยราคาปรับตัวขึ้นจาก 66 สตางค์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม แต่เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมขึ้นมาปิดที่ 18.90 บาท เพิ่มขึ้น 18.24 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2,764%
และอันดับ 3 คือ หุ้นบริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG พุ่งขึ้นจาก 5 สตางค์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม ขึ้นมาปิดที่ 57 สตางค์ ในวันที่ 21 ธันวาคม โดยเพิ่มขึ้น 52 สตางค์หรือเพิ่มขึ้น 1,040%
ส่วนหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดในปีนี้ ตั้งแต่อันดับที่ 4 จนถึงอันดับที่ 20 ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ 600% ไล่ลงไปจนถึงกว่า 300%
JTS วิ่งมาราธอนมาเกือบ 12 เดือนเต็มแล้ว โดยอาจพักบ้าง แต่พักเพียงช่วงสั้นก่อนจะออกวิ่งต่อ และไม่มีใครหยุดได้ แม้แต่ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายนับไม่ถ้วน และยกระดับความเข้มข้นของมาตรการถึงขั้นสูงสุด แต่ก็สยบหุ้นตัวนี้ไม่อยู่
ค่าพี/อี เรโช JTS ขยับขึ้นไปประมาณ 580 เท่าแล้ว ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีประมาณ 160 เท่า และไม่จ่ายเงินปันผลติดต่อหลายปี แต่ดูเหมือนว่าปัจจัยพื้นฐานที่ไม่น่าสนใจ ไม่ใช่ประเด็นปัญหาของการเก็งกำไร
จุดขายที่ถูกสร้างขึ้นล่าสุดของ JTS อยู่ที่การลงทุนในเหมืองขุดบิตคอยน์ แม้ยังไม่รู้ว่า ผลตอบแทนจากเหมืองบิตคอยน์จะคุ้ม หรือทำให้ผลประกอบการบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้หรือไม่ แต่ก็เป็นปัจจัยที่ถูกนำไปกระตุ้นราคาหุ้นขณะนี้
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย JTS เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,483 ราย ซึ่งน่าตั้งคำถามเหมือนกันว่า ล่าสุดจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยเหลืออยู่เท่าไหร่
เพราะราคาที่มาไกลสุดกู่ขนาดนี้ รายย่อยส่วนใหญ่น่าจะเผ่นออกเกือบหมดแล้ว หุ้นจึงน่าจะอยู่ในมือของนักลงทุนรายใหญ่ๆ
ในปีนี้มีหุ้นร้อนหลายสิบตัว แต่ JTS วิ่งทิ้งห่างหุ้นร้อนตัวอื่นชนิดไม่เห็นฝุ่น และไม่รู้ว่า สิ้นปีหุ้นตัวนี้จะวิ่งไปหยุดที่ไหน จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจนเฉียด 10,000% หรือไม่
แต่ไม่ว่าจะปิดลงที่ราคาไหน ปีนี้ถือว่า JTS มาไกลมาก จนปีหน้าแทบไม่มีเพดานให้วิ่งได้ต่อ
ถ้าปีหน้ายังรักษาระดับความร้อนแรงได้อีก JTS จะกลายเป็นซูเปอร์หุ้นร้อนที่นักลงทุนรายย่อยควรถอยห่าง