ปลากระป๋องปุ้มปุ้ย คาดยอดขายปี 64 เกินเป้า รับอานิสงส์จากโควิดคนอยู่บ้านทำงานและอุทกภัย ส่วนปี 65 คาดยอดขายโต 10% โดยยังคงเร่งปั๊มยอดขายจากปลา-หอยลายปรุงรส เนื่องจากเป็นสินค้าชูโรงครองตลาดอันดับ 1 ตลอดกาล ผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดและยี่ปั๊วที่เข้าถึงฐานลูกค้าตรง พร้อมเพิ่มแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลังทดลองตลาดเติบโตก้าวกระโดด
นางปวิตา โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ ‘ปุ้มปุ้ย’ เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2564 ว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปีนี้ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมาตรการส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในปี 2564 เติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่ทางบริษัทได้กำหนดไว้ นางปวิตา กล่าว
นางปวิตา กล่าวด้วยว่า สำหรับสินค้าภายใต้แบรนด์ของปุ้มปุ้ยที่ยังคงเป็นที่นิยม และสร้างยอดขายของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่มปลากระป๋องปรุงรส ที่มีสัดส่วนยอดขายถึง 41% และหอยลายกระป๋องปรุงรส 24% อย่างสินค้าปลาแมคเคอเรลทอดราดพริก มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี
“โดยเฉพาะหอยลายทอดรสเผ็ด เรากล้ายืนยันได้ว่า มีเพียงแบรนด์ปุ้มปุ้ยแบรนด์เดียวเท่านั้นในท้องตลาด” นางปวิตา กล่าว
นอกเหนือจากสินค้าที่มีอยู่ในกลุ่มกระป๋องที่ผู้บริโภครู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั้น นางปวิตา กล่าวต่อว่า ทางบริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าในกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม เป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าสแน็คหอยลายอบกรอบ ที่ทำมาจากเนื้อหอยลายแท้ 100% กลุ่มสินค้าอาหารพร้อมทาน ที่ฉีกซองแล้วทานได้เลย สะดวก และง่ายในการจัดเก็บ โดยไม่ต้องแช่เย็น เพียงวางไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติ หรือกลุ่มสินค้าน้ำแกงพร้อมปรุง เป็นสินค้าที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
"ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ทำให้ลูกค้ามีการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารเป็นการปรุงอาหารด้วยตนเองที่บ้าน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อเพิ่มความสุขได้ง่ายๆ กับครอบครัว หรือคนที่เรารัก" นางปวิตา กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับสัดส่วนยอดขายของปุ้มปุ้ยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20%
สำหรับทิศทางในการทำธุรกิจในปี 2565 นั้น นางปวิตา กล่าวด้วยว่า บริษัทคาดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จากการได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงนั้น ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่ายอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยบริษัทมุ่งทำกลยุทธ์ทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งบริษัทมีช่องทาง E-Commerce ในการจัดจำหน่ายสินค้า เนื่องจากช่องทางนี้ หลังได้ทดลองเปิดตลาดไปแล้วได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีการเติบโตมากกว่า 60% และสื่อออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Youtube, Line และ TikTok เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคโดยตรง
อีกทั้งการเพิ่มรูปแบบรายการส่งเสริมการขายที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดทุกปี ตามสโลแกนที่ว่า “ปุ้มปุ้ย อร่อยที่รอยยิ้ม”
ในขณะเดียวกัน บริษัทได้ทำการปรับทิศทางขององค์กรให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลมากขึ้น นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่น ระบบ ERP เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
อีกทั้งบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร สนับสนุนให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน เพื่อที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่ผู้บริโภคต่อไป เพราะรอยยิ้มในมื้ออาหารของทุกคน คือ ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับปุ้มปุ้ย