SMPC เผยผลงาน Q4/64 ยังคงเติบโตต่อเนื่องตามความต้องการใช้ถังแก๊สทั้งในและต่างประเทศ ยอดขายในทวีปอเมริกาเหนือดีมานด์ยังสูง ล่าสุด ได้งานประมูลภาครัฐของประเทศคูเวต และงานประมูลในประเทศ หนุนโค้งสุดท้ายของปีออเดอร์แน่น มั่นใจยอดขายทะลักยาวถึงปีหน้า ล่าสุด ทุ่มงบ 30 ล้านบาท สร้างพื้นที่จัดเก็บสินค้าสำเร็จรูปเพื่อแก้ปัญหาระวางเรือ และปรับปรุงขยายพื้นที่โรงงาน 2 รองรับแผนบุกตลาด
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้คาดว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อที่เข้ามา โดยเฉพาะตลาดในทวีปอเมริกาเหนือที่มีความต้องการใช้ถังแก๊สสูงขึ้น ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ในช่วงที่ผ่านมาอาจได้รับผลกระทบเรื่องการขนส่ง คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นตามลำดับ โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการบริหารจัดการในหลายๆ ด้านเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น
“ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ถึงสิ้นปีนี้เต็มแล้ว และรับออเดอร์ยาวถึงปีหน้า นอกจากนี้ ยังได้งานประมูลถังแก๊สภาครัฐของประเทศคูเวต ขนาด 12 กิโลกรัม จำนวน 3.7 แสนใบ กำหนดทยอยส่งงานสิ้นสุดภายในไตรมาส 2/65 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังชนะการประมูลงานในประเทศอีก 1.3 แสนใบ ซึ่งจะเริ่มส่งมอบงานภายในปีนี้ สนันสนุนผลงานเติบโตแข็งแกร่ง” นายสุรศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาระวางเรือขาดแคลนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก และการขนส่งที่ชะลอตัวในปัจจุบันยังคงกระทบต่อแผนการผลิต ล่าสุดในช่วงปลายไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยลงทุนสร้างที่เก็บสินค้าสำเร็จรูปในร่ม พื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางเมตร และลานสำหรับจัดเก็บด้านนอกอีก 2,500 ตารางเมตร งบลงทุนรวม 30 ล้านบาท เพื่อใช้เก็บถังแก๊สได้ราว 4 แสนใบ เชื่อว่าจะช่วยรองรับแผนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่องยิ่งขึ้น ประกอบกับการปรับปรุงขยายพื้นที่โรงงาน 2 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดปลายปีนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่ม ได้แก่ ในทวีปอเมริกาใต้ หลังจากที่ยอดขายในทวีปอเมริกาเหนือเติบโตแรง นอกจากนี้ ยังมีประเทศในแถบแอฟริกาที่ยังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก ขณะที่ตลาด CLMV มียอดขายดีขึ้นเช่นเดียวกัน เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนยอดขายให้เติบโตต่อเนื่องในอนาคต