"เวริฟายวอสป์" เผยได้รับการลงทุนระดับกลยุทธ์จาก "เชนนาไลซิส" ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มข้อมูลบล็อกเชน ที่ให้บริการเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงและเครื่องมือในการสืบสวนบนบล็อกเชนแบบเรียลไทม์ เป็นการจับคู่ระหว่างการปฏิบัติตามมาตรฐานและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ช่วยยกระดับการสร้างระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมั่นคง สามารถตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัยบนแพลตฟอร์มตามภาระผูกพันของกฎ Travel Rule
นายอเล็กซ์ คิม (Alex Kim) ผู้อำนวยการของ VerifyVASP กล่าวว่า VerifyVASP เป็นบริษัทที่สนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Virtual Assets Service Provider หรือย่อว่า “VASP”) ซึ่งรวมถึงศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน Travel Rule ตามที่โดยหน่วยเฉพาะกิจด้านการเงิน (Financial Action Task Force หรือ “FATF”) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับโลกในด้านการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (CFT)
ตามคำแนะนำของ FATF เพื่อให้เป็นไปตามกฎ Travel Rule เขตอำนาจศาลต่างๆ ควรกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฝั่งต้นทางส่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ริเริ่มธุรกรรมและเจ้าของบัญชีไปยังผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลปลายทาง ไปพร้อมกับธุรกรรม หากธุรกรรมมียอดสูงในระดับหนึ่งคำแนะนำนี้คล้ายกับคำแนะนำที่มีอยู่แล้ว ในเรื่องการแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินผ่านธนาคาร
ด้วยศักยภาพในการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลข้ามพรมแดนที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน และมีความถี่สูงและรวดเร็ว มาตรฐาน FATF ช่วยบรรเทาการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างผิดกฎหมาย และจัดการความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการให้ทุนผู้ก่อการร้านที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากโดยเนื้อแท้แล้วบล็อกเชนของคริปโตเคอร์เรนซีมีความโปร่งใส เพราะธุรกรรมจะอยู่บนเล่มบันทึกบัญชีที่เป็นสาธารณะและไม่แก้ไขได้ยาก ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเครื่องมือที่เหมาะสม สามารถตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัยบนแพลตฟอร์มของพวกตน และปฏิบัติตามภาระผูกพันของกฎ Travel Rule
“การลงทุนที่ทำโดย Chainalysis เป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และมีส่วนช่วยในการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัล เราเชื่อว่าการพัฒนาโซลูชันกฎ Travel Rule ที่ไร้รอยต่อ คุ้มค่า และทำงานร่วมกันได้นั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญที่นำไปสู่การลดความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการให้ทุนผู้ก่อการร้าย ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตคริปโตเคอร์เรนซีอย่างต่อเนื่อง และการนำคริปโตเคอร์เรนซีไปใช้งาน” นายอเล็กซ์ คิม (Alex Kim) ผู้อำนวยการของ VerifyVASP กล่าว
เมื่อ FATF แนะนำให้ใช้กฎ Travel Rule กับธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซี หนึ่งในปัญหาที่อุตสาหกรรมเผชิญคือ โซลูชันทางเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถแบ่งปันข้อมูลนี้ได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีเกิดขึ้นบนบล็อกเชนแบบสาธารณะ VerifyVASP จัดการกับความท้าทายของการเปิดเผยข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยไม่ได้ตั้งใจต่อบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต และเก็บรักษาบันทึกกฎ Travel Rule โดยใช้หลักการสองข้อต่อไปนี้
การรักษาความปลอดภัยที่ไม่ต้องใช้ความเชื่อใจ (Trustless Security) ข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลได้ (PII) ของสถาบันและเจ้าของบัญชีต้นทางจะได้รับการเข้ารหัสแบบ end-to-end และสามารถเข้าถึงได้เฉพาะโดยผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับคำสั่งและผู้รับผลประโยชน์เท่านั้น โดยไม่ได้มีการส่งมอบ PII ให้ VerifyVASP หรือบุคคลอื่นๆ และเนื่องจากบุคคลอื่นไม่สามารถถอดรหัส PII ได้ นอกจากผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้นทางและปลายทาง การออกแบบความปลอดภัยนี้จึงไม่จำเป็นต้องใช้ความเชื่อใจสำหรับฝ่ายที่ทำการจัดการหรือส่งข้อมูล และจึงถือว่าเป็นการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ต้องใช้ความเชื่อใจบันทึกที่ตรวจสอบได้ (Auditable Records) ID สำหรับการยืนยัน ซึ่งไม่รวม PII และแฮชของธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชน จะถูกบันทึกเพื่อให้สามารถอ้างอิงการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลแต่ละรายการ กลับไปยังกาส่งข้อมูลสำหรับกฎ Travel Rule ที่ประสบความสำเร็จ
การลงทุนนี้นำโซลูชัน VerifyVASP และแพลตฟอร์มข้อมูลบล็อกเชนของ Chainalysis มารวมกันเพื่อสร้างโซลูชันสำหรับกฎ Travel Rule ที่แข็งแกร่งและครอบคลุมยิ่งขึ้น
นายยูลีส เดลลอร์โต (Ulisse Dell'Orto) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Chainalysis กล่าวว่า เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ลงทุนในโซลูชันสำหรับกฎ Travel Rule ร่วมกับ VerifyVASP “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการจับคู่ระหว่างการปฏิบัติตามมาตรฐานและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด กับความเชี่ยวชาญและความสามารถในการตรวจสอบของแพลตฟอร์มข้อมูลของเรา การร่วมมือกันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศของคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลระดับโลก และสร้างความไว้วางใจในระบบนิเวศโดยรวม” ทั้งนี้ นายยูลีส เดลลอร์โต จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของคณะกรรมการ VerifyVASP อีกด้วย VerifyVASP จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ เพื่อทำให้โซลูชันสำหรับกฎ Travel Rule สามารถทำงานร่วมกันได้ และยินดีรับการหารือกับพันธมิตรด้านกฎ Travel Rule รายอื่นๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการผสานรวมโซลูชันต่างๆ