ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น ย้ำผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี ต้องเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ TWZ ที่มีรายชื่อก่อนปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2564 เท่านั้น โดยผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.10 บาท (พร้อมรับใบสำคัญแสดงสิทธิ TWZ-W6) และ/หรือใช้สิทธิจองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ ในสัดส่วน 45,132 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ในราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท (พร้อมรับ TWZ-W7) กำหนดชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน 13- 20 ธันวาคมนี้
นายกิตติพงศ์ กิตติภัสสร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนระดมทุนด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวนไม่เกิน 4,964.47 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 496.44 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.10 บาท รวมถึงการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 330,000 หน่วย ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท รวมมูลค่าระดมทุน 330 ล้านบาท รวมมูลค่าระดมทุนทั้งสิ้น 826.44 ล้านบาทนั้น ปรากฏว่า ได้รับกระแสตอบรับอย่างคึกคักจากผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งมีอายุ 2 ปี 6 เดือน กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 6.25% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอชี้แจงให้ทราบเพิ่มเติมว่า สำหรับการจองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพชุดดังกล่าวนี้ จะสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฏ ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2564 จึงจะได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ ในอัตรา 45,132 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ในราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท อัตราแปลงสภาพ 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพต่อ 5,000 หุ้นสามัญ เริ่มแปลงสภาพได้ 2 ปีนับจากวันที่ออกหุ้นกู้หรือในวันที่หุ้นกู้แปลงสภาพหมดอายุ โดยผู้ถือหุ้นเดิมสามารถเลือกใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งจะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (TWZ-6) โดยไม่คิดมูลค่า และ/หรือเลือกใช้สิทธิจองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งจะได้รับ TWZ-W7 โดยไม่คิดมูลค่า ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมสามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเลือกทั้ง 2 อย่างก็ได้ โดยบริษัทฯ กำหนดวันชำระค่าหุ้นจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและค่าจองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพในวันที่ 13-20 ธันวาคมนี้
“ต้องยอมรับว่า มีผู้สนใจหุ้นกู้แปลงสภาพของ TWZ เป็นจำนวนมาก และสอบถามเข้ามายังบริษัทฯ ตลอด เพราะด้วยผลตอบแทนที่น่าพอใจถึง 6.25% ต่อปี แต่ต้องย้ำว่า เราให้สิทธิเฉพาะผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อตามการปิดสมุดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งเราเชื่อว่า แผนระดมทุนครั้งนี้จะประสบความสำเร็จด้วย และถือเป็นการระดมทุนในจังหวะสำคัญที่รองรับการขยายธุรกิจของ TWZ ไปสู่การเติบโตในอนาคต” นายกิตติพงศ์กล่าว
ทั้งนี้ TWZ ได้ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรและปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ ภายใต้เป้าหมายสร้างการเติบโตแบบ New S-Curve โดยแยกสายธุรกิจชัดเจนระหว่างธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม (Telecom) และธุรกิจอื่น (Non-Telecom) ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle) และธุรกิจกัญชงกัญชา เนื่องจากผลกระทบจากการวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมหรือ Transformation ด้วยการสร้างโมเดลที่มีศักยภาพสูงมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเดิม แม้ว่าปัจจุบันโครงสร้างรายได้หลักยังมาจากสายธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม (Telecom) แต่ธุรกิจสายงาน Non-Telecom โดยเฉพาะเป็นธุรกิจที่อินเทรนด์หรืออยู่ในกระแส ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและกัญชงกัญชา จะทำให้เป้าหมายในการสร้าง TWZ ให้เติบโตแบบ New S-Curve มีความเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้
บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หลังจากเซ็นสัญญาซื้อขายและให้บริการไปแล้ว 2 ฉบับ มูลค่าโครงการประมาณ 100 ล้านบาท โดยโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่ โครงการรถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) ที่ลงนามสัญญา กับ บริษัท ออลซีซันส์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ใช้วิ่งเป็นรถ Shuttle Bus ของอาคารออล ซีซันส์ เพลซ และโรงแรมคอนราด กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิต จำนวน 2 คัน ซึ่งโครงการนี้ TWZ รับผิดชอบดูแลทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นตัวรถ การบำรุงรักษา พนักงาน ขับรถ สถานีจ่ายไฟ โดยมีสัญญาระยะยาว 5 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2569 ขณะที่อีก 1 โครงการอยู่ในขั้นตอนรอส่งมอบรถจำนวน 26 คันภายในเดือนธันวาคมนี้