xs
xsm
sm
md
lg

ย่ำเท้า 1,650 ยันสิ้นปี / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ยังไม่ได้ปรับประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีนี้ โดยยืนตัวเลขไว้ที่ 1,650 - 1,670 จุด ซึ่งหมายถึง ในช่วงโค้งสุดท้าย ตลาดหุ้นจะไม่ขยับไปไหนไกลจากวันนี้ นอกจากแก่วงตัวกรอบแคบ ๆ

แม้จะมีความคาดหวังว่า เงินทุนต่างชาติจะทยอยไหลกับเข้ามา และมีแรงซื้อจากกองทุนเพื่อการออมหรือ SSF ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาทดแทนกองทุนหุ้นระยะสั้นหรือ LTF วงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาทเข้ามาในเดือนธันวาคมนี้ แต่ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนตลาดหุ้นให้เกิดความคึกคักมากนัก

เพราะต่างชาติไม่ได้คงไม่ยกทัพใหญ่เข้ามาไล่ซื้อหุ้น โดยอาจซื้อๆขายๆเหมือนในช่วงนี้ และหลังจากวันที่ 15 ธันวาคม ต่างชาติอาจชะลอการลงทุน เช่นเดียวกับทุกปีปีที่ผ่านมา

ในระยะสั้น หุ้นที่ตีกรอบให้ขึ้นลงในกรอบที่จำกัด จากก่อนหน้าที่เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,650 จุด แต่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กรอบที่ตีให้จำกัดลงอีก โดยขยับขึ้นบวกลบประมาณ 10 จุด จากระดับ 1,650 จุด ช่องว่างการทำกำไรโดยภาพรวมของตลาดจึงแคบมาก

การหากำไรจากตลาดหุ้น นักลงทุนทำมาหากินในตลาดหุ้นยากมาก ขณะที่หุ้นกลุ่มต่าง ๆ ก็สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้น ตามข่าวดีที่เข้ามาสนับสนุน ส่วนหุ้นที่ไม่มีข่าวดีกระตุ้น จะพักปรับฐานชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม หุ้นขนาดใหญ่ ปรับฐานขึ้นมากันครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสื่อสาร ซึ่งมีข่าวการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC

หรือหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งขยับตามหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะมียานแม่ SCBX เป็นธงนำ และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ขยับตัวขึ้นหลังผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ออกมาสดใส โดยมี บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรอ EA เป็นตัวจุดพลุนำ

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวขึ้นรับกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งทะยานแล้ว เช่นเดียวกับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ที่ขยับขึ้นขานรับนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว และเหลือเพียงหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เท่านั้นที่ยังโดดเด่นอยู่

ถ้าจะซื้อหุ้นเพื่อการเก็งกำไรระยะสั้น ไม่รู้ว่าควรจะเข้ากลุ่มไหน หรือเล่นตัวไหนดี เพราะแต่ละกลุ่มก็ถูกไล่ขึ้นไปหมดแล้ว หรือแต่ละตัว ราคาก็วิ่งเข้าไปเต็มมูลค่า

และแม้แต่หุ้นตัวเล็ก ๆ ที่ราคาเคยพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง ช่วงนี้ก็สงบลง ราคาอยู่ในข่วงการปรับฐาน และมีเพียงบางตัวที่ยังคงร้อนแรงอยู่ ราคาถูกลากขึ้นสู่ยอดดอยที่สูงชัน เช่นหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY

แต่ราคาสูงระดับยอดเขาเอเวอเรสต์ นักลงทุนยังกล้าตามเข้าไปเล่นหรือ

นับจากนี้ถึงสิ้นปี ถ้าประเมินจากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่แล้ว ตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกประมาณ 1% คำนวณเป็นตัวเลขดัชนีฯประมาณ 20 จุด เพดานขาขึ้นหรือช่องว่างการทำกำไรจึงเหลือน้อยมาก และอาจไม่คุ้มความเสี่ยง หากตลาดเกิดความผันผวน

ดังนั้น นักลงทุนอาจต้องนั่งดูตลาดหุ้นไปพลาง ๆ ไม่มีธุรกรรมการซื้อขายมากนัก เว้นแต่นักลงทุนระยะยาวที่เฝ้ารอคอยจังหวะ ช้อนหุ้นดีในราคาที่ต่ำรองได้

ส่วนนักเก็งกำไรระยะสั้น อย่าหวังรวยจากตลาดหุ้น แค่หวังเก็งกำไรหาค่า “กับข้าว” ไปวัน ๆ ยังยากเลย

เพราะหุ้นไม่ไปไหนจริง ๆ ถูกตรึงแน่นแถว 1,650 จุด และอาจอยู่แถวนี้ไปจนปิดฉากปี 2564








กำลังโหลดความคิดเห็น