ผู้ว่าฯ อ่างทอง เผยผลตรวจสอบและติดตามการปรับปรุงโรงงานไทยเรยอน พบการปล่อยสารเคมีไม่เกินค่ามาตรฐาน ด้าน “ไทยเรยอน” แจงทุ่มงบประมาณปรับปรุงระบบกรองก๊าซไปไม่น้อยกว่า 535 ล้านบาท
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบผลการปรับปรุงโรงงานไทยเรยอน พร้อมคณะ ว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนรำคาญจากสารเคมีของบริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบและติดตามผลการแก้ไขปรับปรุงโรงงานและสรุปผลรายงานทุก 3 เดือน แต่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดประชุมและตรวจติดตามเป็นคณะได้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทอง จึงได้ชี้แจงคณะกรรมการฯว่า บริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทองว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงขนาดถังกัมมันต์ของระบบ CS2 Recovery หรือระบบกรองก๊าซคาร์บอนไดซัลไฟด์ จากขนาด 19 ตัน เป็น 26 ตัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชนในบางพื้นที่
ทั้งนี้ บริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการปรับปรุงโรงงานตามคำแนะนำของอุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทองมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าระดับความเข้มข้นของสารเคมีที่ปากปล่องจะอยู่ภายใต้เกณฑ์ที่กำหนด แต่ทางโรงงานมิได้นิ่งนอนใจที่จะควบคุมการปล่อยสารเคมี และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมรอบโรงงานอย่างเข้มงวด ทำให้คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และผู้ตรวจราชการมีความพึงพอใจในผลการดำเนินงานปรับปรุงแก้ไขของโรงงานในครั้งนี้
ด้าน นายมูนิต กุมาร์ ราธิ ประธานบริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางบริษัทไม่เคยนิ่งนอนใจกับกลิ่นสารเคมี และได้ทำการปรับปรุงโรงงานไทยเรยอนอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหลายปี ใช้งบประมาณในการปรับปรุงระบบกรองก๊าซไปไม่น้อยกว่า 535 ล้านบาท และปรับปรุงในส่วนอื่นๆ อีก 81 ล้านบาท ทำให้ปริมาณกลิ่นสารเคมีลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ และอยู่ภายใต้เกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน และสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชนชาวอ่างทอง