ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบียเร็วกว่าที่คาดไว้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,597.93 จุด ลดลง 90.4 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,369.88 จุด ลดลง 280.2 จุด หรือ -1.09% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,531.49 จุด ลดลง 5.88 จุด หรือ -0.17%
ปัจจัยด้านเงินเฟ้อยังคงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี และยอดค้าปลีกที่สูงกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฯฐ พบว่า นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มี.ค.2565 จากเดิมที่คาดไว้ในเดือน ก.ค.2565
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยคาดว่าจะเป็นธนาคารกลางแห่งแรกในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของโลกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะอยู่ในกลุ่มธนาคารกลางขนาดใหญ่ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้าที่สุดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือน ธ.ค. หลังเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ขณะนี้มีแนวโน้มเกือบ 100% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.15% สู่ระดับ 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 16 ธ.ค. หลังจากที่ BoE สร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่น่าจับตาในวันนี้ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอินโดนีเซีย รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ และดัชนีการผลิตเดือน พ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย