ตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีอาจเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,046.19 จุด ลดลง 60.59 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,856.11 จุด ลดลง 140.03 จุด หรือ -0.56% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,486.45 จุด ลดลง 6.01 จุด หรือ -0.17%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2533 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.4% ในเดือน ก.ย.
แนนซี เดวิส นักวิเคราะห์จากบริษัท Quadratic Capital Management กล่าวว่า "การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI เดือน ต.ค.สะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่เหนือระดับเป้าหมายของเฟด โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานและภาวะขาดแคลนแรงงาน เราคาดว่าหากเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลงอาจจะทำให้เฟดปรับลดวงเงิน QE ลงอีก และอาจจะเร่งให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นด้วย"
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 267,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.2563 จากระดับ 271,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาอัตราว่างงานเดือน ต.ค.ของออสเตรเลียในวันนี้ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน พ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน