เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ งวด 9 เดือนของกลุ่มบริษัทพลิกเป็นกำไร 79.96 ล้านบาท หรือพุ่งกระฉูดกว่า 507.95% ส่วนรายได้ 1,275.76 ล้านบาท อานิสงส์ขนส่งโลจิสติกส์ขาขึ้น ดีมานด์คอนเทนเนอร์ทะลัก “กิตติ พัวถาวรสกุล” ประเมินภาพรวมธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากการปรับตัวขึ้นจากปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าและการพัฒนาบุคลากรภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อให้รองรับกับสถานการณ์ในอนาคต
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) ของกลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 79.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 507.95% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 19.60 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 1,275.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 572.54 ล้านบาท หรือ 81.42% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 703.22 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นรวม 225.20 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 85.03%
ส่วนงวดไตรมาส 3/2464 มีกำไรสุทธิ 41.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 41.80 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5757.16% เพราะกลุ่มบริษัทฯ มีศัยภาพในการขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีรายได้จากการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้นจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ค่าระวางที่ปรับตัวสูงขึ้น และสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี จึงทำให้มีผลกำไรขึ้นต้นที่เพิ่มขึ้นมาก
“ผลประกอบการที่ออกมาถือว่าเป็นไปตามที่คาด จากรายได้และกำไรจากธุรกิจหลักที่เติบโตอย่างมาก ถือเป็นผลการดำเนินงานที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนับตั้งแต่เข้าตลาดฯ เมื่อ 7 ปีก่อน เป็นผลสืบเนื่องมาจากการร่วมมือกันของทุกฝ่ายในบริษัทฯ ที่ผลักดันให้ธุรกิจของ NCL ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของธุรกิจ Logistics และ non-Logistics ซึ่งถือเป็นการต่อยอดการลงทุนในธุรกิจที่รองรับการเติบโตในอนาคตและสร้างฐานกำไรที่สม่ำเสมอ”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NCL กล่าวอีกว่า จากการวางกลยุทธ์เพื่อต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจ Non-Logistics ที่มีศักยภาพในอนาคต อาทิเช่น ธุรกิจ Digital Content รวมถึงการเข้าร่วมประมูลงานต่างๆ จากภาครัฐ และโปรเจคกัญชง-กัญชา เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 คาดว่ารายได้และกำไรมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างโดดเด่น สอดคล้องกับสภาวะอุตสาหกรรมการขนส่งโลจิสติกส์ที่เติบโตตามปริมาณการค้าโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น และอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของค่าบริการขนส่งระหว่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้น