หุ้นไทยปิดลบ 1.22 จุด แกว่งคล้ายต่างประเทศ กลุ่มไมโครไฟแนนซ์กดดัน โดยมองว่าจะได้รัลผลกระทบจากส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิแคบกว่าที่ประเมิน สะท้อนการแข่งขันรุนแรง และอาจส่งผลไปถึงไตรมาส 4/64 ด้วย แนะจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวลง แต่ดัชนียังยืนเหนือระดับ 1,626 จุดได้เป็นวันที่ 4 โดยตลาดรับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มไมโครไฟแนนซ์ นำโดย MTC หลังงบออกมาต่ำกว่าตลาดคาดไว้ ทำให้ถูกปรับลดราคาเป้าหมายและกำไรปีนี้ลง ทำให้หุ้น TIDLOR และ SAWAD โดนหางเลขราคาลงตามไปด้วย โดยมองว่าจะได้รัลผลกระทบจากส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิแคบกว่าที่ประเมิน สะท้อนการแข่งขันรุนแรง และอาจส่งผลไปถึงไตรมาส 4/64 ด้วย
ส่วนหุ้น DELTA วันนี้ฟื้นตัวขึ้นได้บ้างหลังเจอแรงขายจากความวิตกจะถูกถอดออกจาก SET50/SET100 ตามเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหุ้น GULF ได้รับแรงกดดันไปด้วยหากใช้เกณฑ์ใหม่ใช้ในการคัดหุ้นเข้า SET50/SET100 ซึ่งมองว่าหุ้น GULF มีโอกาสที่จะหลุดด้วย
สัปดาห์นี้แนะติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัท และจับตาอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันนี้ คาดว่าน่าจะอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยัง Laggard เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ทำให้น่าจะเริ่มกลับมาได้หลังจากยอดฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 สูงขึ้นมาก และยังจะมีการจัดซื้อยารักษาโควิด-19 เพิ่มเข้ามาอีก สร้างความมั่นใจให้การท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก อีกทั้งเชื่อว่าภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ ต่างเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน หลังจากสะท้อนงบของบริษัทในแต่ละตลาดกันไปแล้ว และอยู่ในช่วงรอปัจจัยกระตุ้นใหม่เข้ามาด้วย
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,630.47 จุด ลดลง 1.22 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.07% มูลค่าการซื้อขาย 67,908.26 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,626 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด