ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพ (KR-ECI) ในเดือน ต.ค.64 และ 3 เดือนข้างหน้า ปรับลดลงอยู่ที่ 34.9 และ 36.7 จาก 36.6 และ 38.4 โดยเมื่อพิจารณาองค์ประกอบของดัชนีพบว่าครัวเรือนมีความกังวลเกี่ยวระดับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งในส่วนของราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบโลก และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา สอดคล้องกับทิศทางของเงินเฟ้อในเดือน ต.ค.64 ที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ 2.38% YoY เนื่องจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น (+22.6%)
ทั้งนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก เช่น ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาต่อเนื่องจากภาวะอุปทานตึงตัว หลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งหนุนความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่กำลังการผลิตยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ทันตามความต้องการ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ทั้งค่าขนส่งและค่าสินค้าปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมายังส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาผักสดปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกชนิดเมื่อเทียบกับเดือนก่อน
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยครัวเรือนส่วนใหญ่มองว่า 41.0% จะปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ส่วนอีก 39.4% จะใช้สินค้าอุปโภคบริโภคปริมาณน้อยลงต่อครั้งเพื่อให้ใช้นานขึ้น ซึ่งวิธีการรับมือต่างๆ บ่งชี้ว่า ในช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังไม่สามารถกลับมาได้เต็มที่ ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจะฉุดรั้งการฟื้นตัวของภาคการบริโภคที่ได้รับผลกระทบจากจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่แล้ว รวมถึงยังได้สอบถามเพิ่มเติมถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดที่เกิดขึ้นพบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบ 14.2% โดยส่วนมากบ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย ซึ่งส่วนนี้จะยิ่งทำให้ครัวเรือนต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมและกดดันกำลังซื้อในสภาวะที่กิจกรรมเศรษฐกิจต่างๆ กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว
สำหรับในระยะข้างหน้าภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนยังมีความเปราะบางสูง ทั้งจากความเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน และราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าภาครัฐจะได้เข้ามาดูแล โดยเฉพาะการตรึงราคาน้ำมันดีเซล แต่ในภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานโลกจึงอาจยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย
ขณะที่การทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการระบาดและการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาจะเข้ามาช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้นได้บางส่วน โดยล่าสุดดัชนี Google Mobility Index ในส่วนของร้านค้าปลีกและนันทนาการ (Retail and recreation) เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยจาก Baseline (+7%) ดังนั้น ในช่วงที่กิจกรรมเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐโดยเฉพาะในส่วนของการบริโภค เช่น มาตรการด้านภาษีในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปียังมีความจำเป็น ควบคู่ไปกับการเปิดประเทศด้วยมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่ชัดเจนและการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง
โดยสรุปแล้ว ดัชนี KR-ECI ในระดับปัจจุบัน (ต.ค.64) และ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง โดยครัวเรือนมีความกังวลเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ราคาสินค้าที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามราคาพลังงาน ดังนั้น ในช่วงที่เหลือของปี 2564 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการบรรเทาผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เร่งตัวยังมีความจำเป็นต่อเนื่อง