เพิ่งได้ยินเรื่องราวน่าอัศจรรย์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด หรือมาร์เกตติ้งบางคน ซึ่งเปลี่ยนวิถีชีวิตไปเป็นนักลงทุนเต็มตัว จนประสบความสำเร็จร่ำรวย มีพอร์ตนับพันล้านบาท
ความน่าอัศจรรย์ของอดีตมาร์เกตติ้งรายนี้อยู่ที่ความสามารถในการเดย์เทรด หรือซื้อขายหุ้นรายวัน จนทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ขณะที่นักลงทุนที่ซื้อขายรายวันส่วนใหญ่ประสบความล้มเหลว ขาดทุนมากกว่ากำไร สูญเสียมากกว่าจะร่ำรวย
ในช่วงที่เข้ามาทำงานใหม่ๆ มาร์เกตติ้งรายนี้ไม่ได้มีฐานะที่มั่งคั่ง และต้องควบคุมการใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะมีรายได้จำกัด บ่อยครั้งอาศัยบัตรเครดิตเป็นแหล่งหมุนเงิน
แต่ทำงานไม่นานเริ่มมีฐานะ มีพอร์ตซื้อขายหุ้น ก่อนตัดสินใจทิ้งอาชีพมาร์เกตติ้ง ผันตัวเองเป็นนักลงทุนเต็มตัว เพื่อตัดปัญหาการถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบ
เพราะเป็นมาร์เกตติ้งที่ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นรวดเร็ว โดยสั่งซื้อขายหุ้นบางตัวถี่ยิบวันละหลายๆ รอบ จนถูก ก.ล.ต.เพ่งเล็ง
ประสบการณ์จากการเป็นมาร์เกตติ้งเพียงไม่กี่ปีทำให้มองเห็นโอกาสและช่องทางในการทำเงินจากหุ้น จึงโดดมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว โดยพ้นจากพันธนาการด้านกฎระเบียบที่เข้ามาควบคุม และมีความคล่องตัวในการซื้อขายมากขึ้น
มูลค่าซื้อขายหุ้นในแต่ละวันเฉลี่ยประมาณ 1 พันล้านบาท โดยหุ้นที่เข้าไปซื้ออาจขายออกภายในวันเดียว หรือถือไว้ 1-2 วัน และหุ้นบางตัวอาจซื้อขายวันละหลายรอบ
การจะเข้าหุ้นตัวไหนจะศึกษาพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของราคา ปัจจัยพื้นฐาน และประเมินแนวโน้มราคา โดยไม่มีข้อมูลภายใน ไม่มีเครือข่ายสร้างราคา แต่เป็นการซื้อขายเก็งกำไร โดยอาศัยประสบการณ์ ซึ่งแม้หลายครั้งจะขาดทุน เสียหายวันละหลายล้านบาท
แต่บทสรุปแล้วกำไรจึงอยู่ได้ และมีฐานะร่ำรวยขึ้นในแต่ละปี
มีนักลงทุนประเภทเดย์เทรดมากมายในตลาดหุ้น แต่น้อยคนเต็มทีที่จะก้าวไปถึงดวงดาว เพราะการทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นรายวันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้ แต่เป็นความสามารถเฉพาะคนมากกว่า
นักลงทุนประเภทเดย์เทรด และเทรดหุ้นระดับวันละ 1 พันล้านบาท โดยไม่ได้เป็น “ขาใหญ่” ไม่ได้เป็น “เจ้ามือ” หรือเป็นนักปั่นหุ้น ปัจจุบันมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 20 คน อายุประมาณ 40 ปีบวกลบ 5 ปี ซึ่งแทบทั้งหมดสามารถทำเงินจากตลาดหุ้นได้ จึงไม่ล้มหายตายจากเหมือนนักลงทุยรายย่อยเดย์เทรดทั่วไป
นักเดย์เทรดวอลุ่มซื้อขายระดับ 1 พันล้านบาทเหล่านี้มีส่วนสำคัญที่ผลักดันให้มูลค่าซื้อขายหุ้นในแต่ละวันพุ่งทะยานสู่วันละ 1 แสนล้านบาท เพราะนักเดย์เทรดกลุ่มนี้สร้างวอลุ่มซื้อขายหุ้นกันประมาณ 2 หมื่นล้านบาทเข้าไปแล้ว
มูลค่าซื้อขายหุ้นพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย 9 เดือนแรกเฉลี่ยวันละ 96,463 ล้านบาท และไม่ควรแปลกใจที่ปีนี้หุ้นเคาะซื้อเคาะขายกันสนั่นในแต่ละวัน
เพราะตลาดหุ้นเต็มไปด้วยนักเดย์เทรด ทั้งนักเดย์เทรดระดับแมลงเม่า นักเดย์เทมดระดับวันละ 1 พันล้านบาท นักเดย์เทรดหน้าใหม่ที่เปิดบัญชีนับแสนราย นักลงทุนขาใหญ่และเจ้ามือหุ้น ยังไม่นับรวมนักเดย์เทรดต่างชาติทั้งหัวดำและหัวแดง
การค้าหุ้นถือเป็นการค้าที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศไทย แต่เป็นการค้าที่มีการเก็งกำไรร้อนแรงที่สุดเหมือนกัน
และเป็นการค้าที่ผู้ค้ารายย่อยหรือนักลงทุนรายย่อยเป็นกลุ่มที่ประสบความล้มเหลวมากที่สุด ทำกำไรได้น้อยที่สุดหรือขาดทุนมากที่สุด
มูลค่าซื้อขายหุ้นปีนี้พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย 9 เดือนแรกซื้อขายเฉลี่ยวันละ 96,463 ล้านบาท และไม่ควรดีใจกับยอดเคาะซื้อเคาะหุ้นที่สนั่นหวั่นไหว
เพราะวอลุ่มที่พองโตเกิดจากการซื้อขายเก็งกำไรลักษณะเล่นได้เสียเหมือนการพนัน โดยนักลงทุนรายย่อยมักเป็นเหยื่อในเกมการซื้อขายหุ้นรายวัน