หุ้นไทยปิดร่วง -8.36 จุด หรือ -0.51% ลงมาแตะ 1,627.61 จุด โบรก ฯ ชี้ นักลงทุนปรับพอร์ตรอจังหวะผลการประชุม ECB-BOJ-FED ประเมินผลประกอบการ บจ.ชะลอตัว มอง SET INDEX แกว่งแคบ ประเมินแนวรับ 1,625-1,630 แนวต้าน 1,640-1,650 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ดัชนีปรับตัว ลดลง -8.36 จุด หรือ -0.51% โดยมีมูลค่าการซื้อขายเพียง 69,387.66 ล้านบาท โดยในระหว่างวัน ดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวันซึ่งปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,635.68 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,626.56 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 468 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 565 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง 1,207 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,712.80 ล้านบาท ในทางกลับกันกลับพบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,427.63 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -32.63 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -252.54 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,851.55 ล้านบาท ปิดที่ 11.60 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,849.13 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
3.SCGP มูลค่าการซื้อขาย 2,474.94 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,370.76 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,556.79 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นกลุ่ม SET100 ที่มีการปรับตัวของราคาบวกมากที่สุด ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 458.00 บาท เพิ่มขึ้น +18.00 บาท หรือ +4.09%
2.INTUCH ปิดที่ 76.25 บาท เพิ่มขึ้น+2.50 บาท หรือ +3.39%
3.KCE ปิดที่ 85.25 บาท เพิ่มขึ้น +2.25 บาท หรือ +2.71%
4.JMART ปิดที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาทหรือ +3.68%
5.JMT ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท หรือ +3.17%
6.COM7 ปิดที่73.25 บาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท หรือ +1.74%
ขณะที่หุ้นกลุ่ม SET100 ที่มีการปรับตัวของราคาลดลงติดลบมากที่สุด ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 187.00 บาท ลดลง -4.50 บาท หรือ-2.35%
2.SCC ปิดที่ 394.00 บาท ลดลง -3.00 บาท หรือ -0.76%
3.BH ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง -1.50 บาทหรือ -1.07%
4.KBANK ปิดที่ 139.50 บาท ลดลง -1.50 บาทหรือ -1.06%
5.IVL ปิดที่ 43.25 บาท ลดลง -1.25 บาทหรือ -2.81%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,225.62 จุด ลดลง -15.03 จุด หรือ -0.67% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 977.32 จุด ลดลง -6.72 จุด หรือ -0.68% และ ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 561.55 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด หรือ 0.09%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานลงมาคล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่ติดลบเฉลี่ย 0.5% โดยอยู่ในในช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามาโดยช่วงสั้นยังเห็นนักลงทุนสถาบันปรับพอร์ตก่อนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะออกมา ซึ่งตลาดหุ้นไทยผลประกอบการ บจ.งวดไตรมาส 3/64 ที่กำลังทยอยประกาศออกมา โดยคาดว่าจะชะลอตัว แต่ไตรมาส 4/64 น่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น จากการลงทุน, ความเชื่อมั่น และเศรษฐกิจที่คาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นได้
อย่างไรก็ดี แนะติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะต้องติดตามต่อไปด้วย ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) ประเมินว่า ตลาดทุนจะยังคงแกว่งตัวในช่วงรอดูปัจจัยจากต่างประเทศ โดยมีแนวรับ 1,625-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,650 จุด