xs
xsm
sm
md
lg

APURE คาด Q4 ยอดขายพุ่ง เตรียมแตกไลน์ธุรกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อกริเพียว โฮลดิ้งส์" เผยโค้งสุดท้ายยอดขายข้าวโพดหวานพุ่งต่อเนื่อง สอดรับความต้องการ ในตลาดยุโรป-สหรัฐอเมริกา รวมถึงในตลาดเอเชียยังไปได้สวย ล่าสุด มีออเดอร์ในมือรอส่งมอบแล้วกว่า 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ 700 ล้านบาท ขณะที่บอร์ดไฟเขียวออก APURE-W3 ไม่เกิน 479.14 ล้านหน่วย แจกผู้ถือหุ้นเดิม 2:1 กำหนดราคาใช้สิทธิ 7 บาท/หุ้น หวังรองรับแผนการต่อยอดธุรกิจในอนาคต เตรียมชง เรื่องขอมติผู้ถือหุ้น 8 ธ.ค.นี้

นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE ผู้ส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูปคุณภาพสูง เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมการส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 ว่า ดีมานด์ปริมาณการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทั้งในตลาดยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมถึงในตลาดเอเชียยังคงเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากในไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซันเข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จึงส่งผลให้มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศในต่างประเทศยังเป็นตัวแปรที่ส่งผล
กระทบให้ผลผลิตข้าวโพดมีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้องมีการนำเข้าข้าวโพดหวานเพิ่มขึ้นตาม โดยล่าสุด ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดออเดอร์ที่เตรียมส่งมอบจนถึงสิ้นปีแล้วกว่า 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 700 ล้านบาท

ประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯได้มีการทำสัญญากับเกษตรกร (Contract Farming) สัดส่วนมากกว่า 90% ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มปริมาณข้าวโพดเข้าไลน์การผลิตได้มากถึง 300,000 ตันต่อปี จากเดิม 150,000-180,000 ตันต่อปี ดังนั้น จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ ยังมีขีดความสามารถในการขยายการรับออเดอร์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่องจากดีมานด์การสั่งซื้อ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าขนาดกลาง และขนาดใหญ่

นายสุเรศพล ยังได้กล่าวถึงกรณีผลกระทบจากการขนส่งว่า ผลกระทบดังกล่าวยังคงเป็นตัวแปรต่อเนื่องไปถึงกลางปี 2565 ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินกิจการมามุ่งเน้นการขยายตลาดในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการขนส่ง หรือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการขนส่งน้อย เช่น ในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออกไปราว 1-2% ของรายได้รวม ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขนส่งไม่มากนัก และสินค้าของบริษัทฯ ได้ผ่านมาตรฐานของห้างสรรพสินค้าในสหภาพยุโรป ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ในประเทศออสเตรีย จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาดได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนบรรจุภัณฑ์ การเจรจาติดต่อกับสายเรือต่างๆ เพื่อที่จะเพิ่มพื้นที่การขนส่งสินค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทฯ ในทุกด้าน

"เรามองว่าเป็นโอกาสสำหรับเราในการขยายตลาดด้วยเงินทุนที่มากพอช่วยให้บริหารจัดการด้านต่างๆ ได้มากกว่าคู่แข่ง มีอำนาจในการต่อรองและช่วยเหลือลูกค้าทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานกระป๋อง สายเรือ รวมไปถึงแนวทางการปรับราคาขายสินค้าของลูกค้าเพื่อที่จะลดผลกระทบที่เกิดจากค่าขนส่ง ส่งผลให้ทิศทางผลประกอบการของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายสุเรศพล กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2564 มีมติเห็นชอบให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากทุนจดทะเบียนเดิม 737,864,463.00 บาท (จำนวน 1,054,092,090 หุ้น) เป็น 670,794,168.10 บาท (จำนวน 958,277,383 หุ้น) โดยตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่าย จำนวน 95,814,707 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ0.70 บาท คิดเป็น 67,070,294.90 บาท

ทั้งนี้ ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,006,191,252.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 479,138,692 หุ้น หุ้นละ 0.70 บาท คิดเป็น 335,397,084.40 บาท โดยจะจัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (APURE-W3) ที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 2 หุ้นต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวมีอายุ 3 ปี และอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ได้ 1 หุ้น และราคาใช้สิทธิ 7 บาท/หุ้น  

“บริษัทฯ จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record Date) วันที่ 17 ธันวาคม 2564 โดยจะเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 8 ธันวาคม 64 และจะและกำหนดรายชื่อผูถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถืออหุ้น (Record Date) ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 64”

สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสอดรับการเตรียมความพร้อมทางด้านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการแตกไลน์ธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมการเกษตรที่เกี่ยวเนื่อง รวมไปถึงการย้ายพื้นที่โรงงานเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคตของบริษัทฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น