ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น อาจส่งผลให้สหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยความกังวลดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มต่างๆ เป็นวงกว้าง ส่วนตลาดหุ้นบางแห่งในภูมิภาคปิดทำการวันนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,235.11 จุด ลดลง 217.55 จุด หรือ -0.74%
ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (1 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ
ตลาดในภูมิภาคได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ การที่สภาคองเกรสอาจให้การอนุมัติการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
แม้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายระงับเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่นักลงทุนกังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกขัดขวางจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนว่า สภาคองเกรสมีเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ในการพิจารณาเรื่องการขยายเพดานหนี้ โดยหากสภาคองเกรสล้มเหลวในการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้สหรัฐฯ เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยวันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 3/2564 ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ พุ่งขึ้นแตะระดับ +18 จากระดับ +14 ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 ไตรมาส และบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตในไตรมาส 3 สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ +13
ผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ BOJ ใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมกำหนดนโยบายครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27-28 ต.ค.นี้