หุ้นเช้าปิดบวก 7.36 จุด โดยเช้านี้ดัชนีหุ้นไทยเปิดกระโดดอย่างมีนัยจากการปรับขึ้นของ SCB นำกลุ่มแบงก์ แต่กลุ่ม Non-Bank ปรับลงจากวิตกการแข่งขันรุนแรงขึ้นกดดันตลาด ขณะที่ผลประชุมเฟดส่งสัญญาณปรับลด QE เดือน พ.ย.ตามคาด แต่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากคาดปี 66 เป็นปี 65 กดดันเช่นกัน แนวโน้มตลาดช่วงบ่ายคาดแกว่งในกรอบ 1,620-1,630 จุด
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เปิดตลาดเช้าตลาดกระโดดอย่างมีนัย และเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงเที่ยงจาก sell on fact โดยแรงซื้อหุ้น SCB เปิดกระโดดขึ้นไปทำจุดสูงสุด 137 บาท และย่อตัวลง 10 บาท ซึ่งทุกๆ 10 บาทส่งผลกระทบ SET ราว 3-4 จุด ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ตัวอื่นก็ปรับขึ้นถ้วนหน้าและย่อตัวลงตาม
แต่ปัจจัยกดดันมาจากกลุ่มการเงิน (Non-Bank) ปรับตัวลง จากความกังวลการแข่งขันรุนแรงขึ้นหลัง SCB ประกาศรุกธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต โดยเห็นว่ากลุ่มบัตรเครดิตปรับลง แนะนำ AEONTS และ BAM ปรับตัวลงให้เป็นจังหวะซื้อ ส่วนกลุ่มลีสซิ่ง TIDLOR, SAWAD, MTC ให้เลี่ยงการลงทุนไปก่อน
ส่วนผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งส้ญญาณจะปรับลด QE ในเดือน พ.ย.เป็นไปตามคาด แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังหลังจากคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) เร็วขึ้นเป็นในปี 65 จากเดิมคาดปรับขึ้นในปี 66 ทั้งนี้ คาดระยะกลาง ดัชนี SET น่าจะทะลุระดับ 1,660 จุดไม่ง่าย โดยแกว่งในกรอบ 1,585-1,660 จุด
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,626.95 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.45% มูลค่าการซื้อขายราว 77,154 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดในช่วงบ่ายวันนี้คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1,620-1,630 จุด