"สีเดลต้า" เผยแผนขาย IPO 53.25 ล้านหุ้น เพื่อระดมทุนไปใช้ปรับปรุงโรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พร้อมซื้อเครื่องผสมสี เดินหน้ารุกตลาดค้าปลีกทั่วประเทศ ชิงมาร์เกตแชร์เพิ่มทุกปี มองภาพรวมธุรกิจปี 64 ครึ่งปีแรกกำไรโต 48% ตั้งเป้าทั้งปีผลงานโตต่อเนื่องจากปีก่อน พร้อม รักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับ 40% ต่อเนื่อง เตรียมจัดทัพผู้บริหารร่วมงานโรดโชว์พบนักลงทุนรายย่อยผ่านช่องทางออนไลน์ตุลาคมนี้ ก่อนเข้าซื้อขายปลายปี
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการเดินหน้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 53.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 1 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 23.15% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
DPAINT เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ประกอบด้วย สีคุณภาพพิเศษ สีคุณภาพสูง และสีคุณภาพคุ้มค่า ในงวดครึ่งปีแรกปี 64 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 40.7% 27.4% และ 31.9% ของยอดขายทั้งหมด โดยทิศทางสัดส่วนสีคุณภาพพิเศษเริ่มมีการเติบโตขึ้นทุกปี จากกลยุทธ์การเพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเสริมพอร์ตซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรดีกว่ากลุ่มอื่น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อขยายตลาดสีกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น Toptech นวัตกรรมสีรองพื้น ช่วยลดระยะการทำงานของช่างทาสีได้ถึง 75% เป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาเลือกใช้กับแลนด์มาร์กระดับโลก ChillShield สีนวัตกรรมใหม่ที่สามารถทาทับหน้ารอบเดียวก็ปกปิดติดทนทานได้ดีเยี่ยมโดยไม่ต้องทาซ้ำ ผลิตจากกาวอะคริลิกพิเศษช่วยให้สีซึมลึกประสานเป็นเนื้อเดียวกับผนังปูนปกป้องบ้านได้นานกว่าสีทั่วไป มีเนื้อสีมากกว่าสีทั่วไปประมาณ 57% ทำให้ทาสีได้ง่าย ลื่น ไม่ติดแปรง ส่งผลให้ใช้สีน้อยกว่าเดิมประมาณ 43% และล่าสุด DPAINT ได้ร่วมจับมือกับดิสนีย์ เปิดตัวสีเดลต้าเมจิก ชิลด์ (DELTA MAGIC SHIELD) สีทาภายในเกรดอัลตราพรีเมียม เจาะกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ และสร้างแบรนด์อิมเมจสู่ระดับสากล ซึ่งมองว่าจะเป็นแบรนด์ไฮไลต์ที่สามารถขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของสีเดลต้าได้เพิ่มเติม
สำหรับกลยุทธ์ของ DPAINT จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาด ตอบสนองการใช้งานในแต่ละกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พร้อมด้วยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายซึ่งปัจจุบันมีครอบคลุมกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีกกึ่งสมัยใหม่ และร้านค้าปลีกดั้งเดิม รวมทั้ง งานโครงการ และการบริการเครื่องผสมสีที่นำไปติดตั้งให้ลูกค้าที่เป็นร้านค้าใช้งาน รองรับโอกาสจากการลงทุนในประเทศ และงานโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นแผนระยะยาวของภาครัฐ สนับสนุนให้งานก่อสร้างเติบโต เมืองมีการขยายตัว และมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และปรับปรุงที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิด-19 ผ่อนคลาย งานเหล่านี้จะเร่งเดินหน้า จึงเป็นโอกาสของ DPAINT จะสามารถขยายการเติบโตในตลาดนี้ ด้วยจุดมุ่งหมายรักษาความสามารถในการทำกำไร และเพิ่มสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ในทุกๆ ปี
ตั้งเป้าปี 64 DPAINT จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 63 ซึ่งบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการ 596.2 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 41.9 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 41.9% อัตรากำไรสุทธิ 7.0% ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 64 เติบโตตามแผน แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 มีรายได้จากการขายและบริการ 387.7 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.7% กำไรสุทธิ 32.9 ล้านบาท เติบโต 48.2% อัตรากำไรขั้นต้น 43.3% อัตรากำไรสุทธิ 8.5%
เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งใหม่ ให้มีความทันสมัยและมีระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ ใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องผสมสี จำนวน 440 เครื่อง จากครึ่งปีแรกปี 64 มี 379 เครื่อง เพื่อเพิ่มจำนวนร้านค้าปลีกและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนในการทำระบบ ERP เงินทุนสร้างห้อง LAB และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
น.ส.เดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ปัจจุบัน DPAINT อยู่ระหว่างเตรียมจัดงานนำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO ต่อนักลงทุนรายย่อย (โรดโชว์) ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่า DPAINT จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ภายในไตรมาส 4/64
ชูจุดเด่นของ DPAINT ผู้บริหารอยู่ในอุตสาหกรรมสีทาอาคารมา 42 ปี ทำให้มีความเชี่ยวชาญและจากทีมงานมืออาชีพ แบรนด์มีความแข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับ ในแง่ของการผลิตมีความทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับโลก ทำให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา ลดต้นทุนการผลิต และสามารถผลิตและส่งสินค้าได้เร็วขึ้น ยืดหยุ่นในการผลิตมากขึ้น นอกจากนี้ DPAINT เป็นบริษัทฯ ที่ไม่หยุดนิ่ง มีการคิดค้นสินค้าอินโนเวชันที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในตลาดทั่วไป ทำให้เพิ่มความสามารถในการทำกำไร และเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดสีทาอาคารในปัจจุบันกว่า 20,000 ล้านบาท DPAINT ยังมีช่องว่างและโอกาสขยายมาร์เกตแชร์ในตลาดนี้อีกเยอะ
ขณะที่ผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา มีการเติบโตขึ้นทุกปี สะท้อนแผนการขยายตลาด ขยายฐานลูกค้า โดยมีการเพิ่มจำนวนคู่ค้าทั้งร้านโมเดิร์นเทรดและร้านค้าปลีกครอบคลุมทั่วประเทศ และความได้เปรียบเชิงต้นทุน (Economies of Scale) โดยปัจจุบัน DPAINT มีกำลังการผลิตโรงงานแห่งที่ 1 (โรงงาน 157) อยู่ที่ 3.24 ล้านแกลลอน/ปี ใช้อัตรากำลังการผลิตแตะระดับมากกว่า 80% เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนกำไรสุทธิมีความโดดเด่น เงินที่ได้จากการระดมทุนจะรองรับแผนการขยายธุรกิจ จะช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทฯ และความน่าสนใจในการลงทุนในระยะยาว