ผู้ถือหุ้น "วันทูวัน คอนแทคส์" อนุมัติจัดสรรวอร์แรนต์ฟรี OTO-W1 ให้ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 280 ล้านหน่วย ในอัตราส่วน 2:1 ด้านบิ๊กบอส “คณาวุฒิ วรรทนธีรัช” เผยเตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง หวังหนุนผลการดำเนินงานเทิร์นอะราวนด์
นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จํากัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ได้มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (OTO-W1) จำนวนไม่เกิน 280,000,000 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วนการจัดสรรที่หุ้นสามัญเดิมจำนวน 2 หุ้นต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ OTO-W1 ซึ่งมีอายุ 3 ปี ราคาใช้สิทธิ 3 บาท
และมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 560,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 280,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน จำนวน 840,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 560,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
พร้อมกันนี้ ยังมีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 560,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 280,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date)ในวันที่ 29 กันยายน 2564 และกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นวันที่ 14 ตุลาคม ถึง 20 ตุลาคมนี้
และเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ OTO-W1 ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ OTO-W1 โดยไม่คิดมูลค่า
"นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยนำมาใช้ในการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ"
นายคณาวุฒิ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงานใหม่ หนุนผลการดำเนินงานเทิร์นอะราวนด์ นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับพันธมิตรเพื่อขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่ Commercial Technology โดยใช้จุดแข็งที่มีอยู่ของบริษัทที่ดีทั้ง Call Center และ Contact Center เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงที่เหลือของปี และจะช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต