หุ้นไทยปิดลบ 22.59 จุดตามตลาดต่างประเทศ กังวลเฟดขึ้น ดบ.เร็วกว่าคาด-ไทยเพิ่มเพดานหนี้ ทำให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่า และจะทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอซื้อทั้งหุ้นและพันธบัตร
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงไปมากตามตลาดเอเชีย ดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์ส ตลาดยุโรปปรับตัวลงมาหมด จากนักลงทุนกังวล 2-3 ปัจจัยหลักได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นในการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE Tapering) และจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4/65 จากเดิมคาดปรับขึ้นในปี 66
อีกปัจจัยจากปัญหาหนี้บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีน ที่รัฐบาลจีนเข้ามาอัดฉีดน้อยกว่าที่คาด ซึ่งในสัปดาห์นี้ 23-29 ก.ย.จะต้องชำระหนี้คืนทำให้นักลงทุนกังวลว่าจ่ายไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุกดดันตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง
และอีกปัจจัยคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐที่มีนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้มีการทบทวนกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากเดิมที่กำหนดไว้ ต้องไม่เกิน 60% เป็นต้องไม่เกิน 70% ทำให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่า และจะทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอซื้อทั้งหุ้นและพันธบัตร
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,603.06 จุด ลดลง 22.59 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.39 มูลค่าการซื้อขาย 85,013.63 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ ประเมินตลาดหุ้นไทยหลุดกรอบ 1,600 จุด ให้แนวรับที่ 1,585 จุด แนวต้านที่ 1,610 จุด