ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือนกันยายน 2564 ใกล้เคียงกับเดือนสิงหาคม 2564 ที่ระดับ 69.25 จุด จากระดับ 69.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด หรือคิดเป็น 0.39% โดยมีปัจจัยที่ทำให้ดัชนีปรับขึ้นมานั้นเกิดจากนโยบายทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ และการอ่อนค่าของเงินบาทหนุนราคาทองในประเทศ
คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือนกันยายน 2564 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 322 ตัวอย่าง พบว่า 46% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ ขณะที่ 30% คาดว่าจะซื้อทองคำ และอีก 24% ยังไม่ซื้อทองคำ
สรุปกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือนกันยายน 2564 จะเพิ่มขึ้น มีจำนวน 6 ราย และคาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนสิงหาคม 2564 มีจำนวน 4 ราย ส่วนที่คาดว่าจะลดลง มีจำนวน 3 ราย
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนกันยายน 2564 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,742-1,870 ดอลลาร์สหรัฐฯงต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 27,100-28,700 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31.90 - 33.21 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
การลงทุนทองคำในเดือนกันยายน 2564 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า นักลงทุนให้ความสนใจและติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน 2564 เพื่อดูทิศทางของราคาทอง โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,833 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม แต่หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ อาจเกิดแรงขายกดดันราคาปรับตัวลดลงใกล้แนวรับบริเวณ 1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนอยู่เสมอ เนื่องจากตลาดทองคำมีความผันผวน
