โบรกเกอร์ประเมิน INTUCH ทำตามมติ ครม. ถือหุ้นใน THCOM เพิ่มเป็น 51% ตามสัญญาสัมปทานเดิม เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช้วิธีทำเทนเดอร์ฯ โดยจะขอผ่อนผันจาก ก.ล.ต. และจะใช้วิธีเก็บหุ้นในกระดานอีก 10% แทน คาดใช้เงินประมาณ 1.1-1.3 พันล้านบาท มองมีกระแสเงินสดเพียงพอ ส่วนดีลนี้เชื่อ THCOM ได้ประโยชน์มากกว่า ขณะที่ราคาหุ้น INTUCH สะท้อนข่าวบวกจากดีลของ GULF เข้ามาจนสูงกว่ามูลค่าหุ้น แนะ Switch ไป ADVANC
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินการตามสัญญากิจการดาวเทียมไทยคม โดยหนึ่งในแนวทางดังคือการให้ บริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH หรือเดิม คือ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นในบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ไม่ต่ำกว่า 51% (จากปัจจุบันที่ถือหุ้น 41.14%) และให้รวมดาวเทียมไทยคม 4 (iPSTAR) เข้ามาอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทาน ทั้งนี้ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ประเมินว่า INTUCH น่าจะไม่ใช้วิธีทำคำเสนอซื้อหุ้น หรือเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ THCOM
KGI คาดว่าจะขอผ่อนผันไม่ทำ tender offer หุ้น THCOM
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.เคจีไอ คาดว่า INTUCH จะดำเนินการตามคำสั่งคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ THCOM เกิดความร่วมมือกับหน่วยงานของภาครัฐได้ หลังจากที่ธุรกิจดาวเทียมของ INTUCH (THCOM) ซึ่งได้แก่ดาวเทียมไทยคม 4 (T4) และไทยคม 6 (T6) จะหมดสัมปทานภายในสัปดาห์นี้ (10 กันยายน 2564) ทั้งนี้ คาดว่า THCOM จะเซ็นสัญญากับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) เพื่อรับจ้างบริหารจัดการดาวเทียมตามระยะเวลาใช้งานที่ยังเหลืออยู่อีก 2-11 ปี ให้แก่ NT
ทั้งนี้ หาก INTUCH ดำเนินการตามคำสั่งให้ถือหุ้น 51% ใน THCOM บริษัทจะต้องซื้อหุ้นเพิ่มอีกประมาณ 9.9% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 41.13% ใน THCOM โดยหากตั้งสมมติฐานว่า INTUCH เข้าซื้อหุ้น THCOM เพิ่มโดยใช้ราคาตลาดที่ 12.00 บาท INTUCH จะต้องใช้เงินราว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งเรามองว่า INTUCH มีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะซื้อหุ้น 9.9% ของ THCOM เพิ่มได้ เนื่องจากเมื่อสิ้นงวด 2Q64 บริษัทมีเงินสดในมือ 2.5 พันล้านบาท
การกลับไปถือหุ้น 51% ใน THCOM โดยหลักการแล้ว จะทำให้บริษัทต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ แต่เชื่อว่า INTUCH จะขออนุญาตคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอยกเว้นการทำคำเสนอซื้อดังกล่าว
ฝ่ายวิจัยมองว่าประมาณการกำไรของ INTUCH ของเราที่ 1.03 หมื่นล้านบาท (-7% YoY) ในปี 2564 และ 1.06 หมื่นล้านบาท (+3% YoY) ในปี 2565 ยังมี upside อีก เนื่องจากคาดว่ารายได้จากการดำเนินงานของ THCOM จะเพิ่มขึ้นจาก i) คาดว่า NT จะจ้างให้ THCOM บริหารจัดการดาวเทียม T4 และ T6 ต่อไป
ii) ใบอนุญาตใหม่จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ iii) โครงการดาวเทียมวงโคจรต่ำ Low Earth Orbit (LEO) โดยในเบื้องต้น เราประเมินว่าโครงการเหล่านี้จะทำให้ราคาเป้าหมายของ THCOM เพิ่มขึ้นประมาณ 0.8-4.8 บาท เป็น 5.8-9.7 บาท ซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมายของ INTUCH เพิ่มขึ้นอีก 0.13-0.70 บาท
ทั้งนี้ กำลังอยู่ระหว่างทบทวนราคาเป้าหมายปี 2565 และคำแนะนำหุ้น INTUCH
ASPS ระบุ 3 ทางเลือก INTUCH แต่เชื่อไม่น่าทำเทนเดอร์ฯ
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) ประเมิน INTUCH มีทางเลือกในการดำเนินการ 3 ทาง คือ
1.กรณี INTUCH ไม่เห็นด้วยกับมติ ครม. อาจจะนำไปสู่ข้อพิพาทกับรัฐ และต้องนำเข้าสู่ศาลปกครอง
2.กรณี INTUCH ยินยอมดำเนินการตามมติ ครม. ซึ่งกรณีดังกล่าว คาดว่า INTUCH จะขอยกเว้นการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ เนื่องจากการซื้อหุ้นเพิ่มไม่อยู่ภายใต้วัตถุประสงค์การเข้าครอบงำกิจการ และน่าจะซื้อหุ้นเพิ่มราว 10% ต้องใช้เงินราว 1.1-1.2 พันล้านบาท ซึ่ง INTUCH มีเงินสดในมือ 2.2 พันล้านบาท รองรับได้
3.กรณียินยอมทำตามและต้องทำเทนเดอร์ฯ คาดว่า INTUCH ต้องใช้เงินราว 7 พันล้านบาท ซึ่งฐานะการเงินนั้นรองรับได้ จากสถานะ Net Cash ภายใต้ฐานทุน 4.0 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินกรณีที่ 2 น่าจะเป็นไปได้มากสุด
มอง THCOM ได้ประโยชน์มากกว่า
นอกจากนี้ ประเมินต่อว่า การถือหุ้นเพิ่มของ INTUCH จะไม่สร้างผลกระทบ แต่ในทางกลับกันไม่สร้างประโยชน์ต่อ INTUCH ดีขึ้น อย่างมีนัย ขณะที่ราคาหุ้นที่ผ่านมา INTUCH สะท้อนข่าวบวกนับจาก GULF เข้ามาจนสูงกว่ามูลค่าหุ้นที่ฝ่ายวิจัยปรับไปใช้กรณีมองบวกที่ 82.2 บาท จากการปรับลดสมมติฐาน Holding Discount จาก NAV ตามมูลค่าพื้นฐานบริษัทลูก เหลือ 0% จากเดิม 10% ดังนั้นจึงปรับลด Switch ไป ADVANC (ราคาเป้าหมาย 220 บาท) ที่ยังมี Upside และได้ประโยชน์จากการที่ GULF เข้ามาในกลุ่มไม่แตกต่างจาก INTUCH
ด้าน THCOM คาดว่าจะได้ Sentiment บวกจากกรณีดังกล่าว ช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น ขณะที่อีกมติหนึ่งของ ครม. ที่รับดาวเทียม iPSTAR เข้าเป็นดาวเทียมภายใต้สัญญา ย่อมสร้างความชัดเจนถึงทรัพย์สินที่ NT จะรับโอนจาก THCOM หลังสัมปทานสิ้นสุด 10 ก.ย.64 ซึ่งน่าจะช่วยเรื่องการเปลี่ยนผ่านจากการให้บริการภายใต้สัมปทานราบรื่น
ทั้งนี้ ประเมินสะท้อนในหุ้นไปแล้ว โดย Upside เพิ่มเติมจากนี้ต้องติดตามธุรกิจใหม่ๆ เช่น โดรน การเป็นตัวแทนขายดาวเทียมวงโคจรต่ำที่จะเข้ามาต่อยอด
CNS คาด INTUCH ใช้เงินซื้อ THCOM ไม่เกิน 1.3 พันล้านบาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS เปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากการที่ ครม.เห็นชอบแนวทางแก้สัมปทานจะช่วยเกิดลดข้อขัดแย้งระหว่างบริษัทและภาครัฐที่เกิดในช่วงก่อนหน้า เช่น สถานะดาวเทียม TC4 หรือสัดส่วนการถือหุ้นของ INTUCH เป็นต้น
รวมถึงเกิดกระแสเก็งกำไรจากกรณีที่ INTUCH อาจจะต้องเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น THCOM อีกอย่างน้อย 10% คิดเป็นจำนวนหุ้นราว 108 ล้านหุ้นจากปัจจุบันที่ถือหุ้น THCOM เพื่อให้เป็นตามแนวทางของมติ ครม. ทั้งนี้ หากอิงตามจำนวนหุ้นที่ต้องถือเพิ่มกับปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ THCOM ในช่วงปีนี้ ประเมินจะต้องใช้เวลา 5 วันทำการสะสมหุ้น
ในมุมมองของ CNS ให้น้ำหนัก INTUCH พิจารณาสะสมหุ้น THCOM ตามคำสั่ง แต่จะขอผ่อนผันไม่ทำคำเสนอซื้อ (tender offer) กับ ก.ล.ต. ทั้งนี้ หากใช้สมมติฐานจากราคาตลาด THCOM ที่ 12.0 บาท คาด INTUCH ต้องใช้เงินอย่างน้อย 1.30 พันล้านบาท แต่ไม่กระทบต่อฐานะการเงินของ INTUCH ที่เป็น net cash Company มีเงินสดในมืออยู่แล้วราว 2.2 พันล้านบาท ดังนั้น สำหรับ INTUCH (แนะนำ TRADING BUY ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 70 บาท) เรามองเป็น sentiment ลบเพียงเล็กน้อย ส่วน THCOM (แนะ REDUCE ราคาเป้าหมาย 5.2 บาท)