xs
xsm
sm
md
lg

ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวหุ้นกู้อีซี่บายที่ ‘AA(tha)’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’ แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันสกุลเงินบาทที่จะออกโดยบริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) (EB; ‘AA(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะออกเสนอขายเป็นชุดและจะมีอายุไม่เกิน 3 ปี โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท

ทั้งนี้ อันดับเครดิตของ EB มีปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่ฟิทช์เชื่อว่า EB เป็นธนาคารลูกที่มีความสาคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ ACOM CO., LTD. (ACOM; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ในประเทศญี่ปุ่น โดย ACOM มีสัดส่วนการถือหุ้นใน EB ที่ 71% และ EB ยังมีบทบาทที่สำคัญต่อกลยุทธ์ในภูมิภาคของกลุ่มบริษัทแม่ เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ EB ยังมีการผสานการดำเนินงานและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันอย่างมากกับบริษัทแม่อีกด้วย

โดยปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต เป็นกรณีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB จะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเช่นกัน ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดได้จากการปรับตัวดีขึ้นในความสามารถของ ACOM ที่จะให้การสนับสนุนแก่ EB การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของบริษัทแม่อาจส่งผลกระทบในลักษณะเดียวกันต่ออันดับเครดิตของ EB แต่อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มอันดับเครดิตดังกล่าวต้องสอดคล้องกับการประเมินความแข็งแกร่งด้านเครดิตของ EB เทียบกับบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์ด้วยเช่นกัน

ขณะที่การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB จะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิได้รับการปรับลดอันดับเครดิตเช่นกัน ทั้งนี้อาจเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงในสมมติฐานของการได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ยกตัวอย่างเช่น การปรับตัวด้อยลงของความเชื่อมโยงระหว่าง EB กับ ACOM รวมไปถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับการควบคุมด้านการบริหารจัดการและความเชื่อมโยงในการดำเนินงานระหว่างบริษัทลูกกับบริษัทแม่ (operational integration) และการที่บริษัทแม่มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลง ต่ำกว่า 50% และมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสัดส่วนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยขนาดใหญ่ (minority shareholder)
กำลังโหลดความคิดเห็น