โบรกเกอร์ประสานเสียง มองโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย ช่วยหนุน SET Index ขาขึ้น ประเมินกรอบ 1,565-1,680 จุด แต่แนะระวังแรงขายทำกำไรบริเวณดัชนี 1,660-1,670 จุด มองตัวแปรสำคัญในเดือน ก.ย.นี้ ยังเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อ มาตรการควบคุมสถานการณ์ของภาครัฐ และลุ้นการประชุม FOMC วันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ซึ่งคาดา FED จะปรับลดมาตรการ QE อย่างเป็นทางการ
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.เอเซีย พลัส ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET Index) เดือน ก.ย.64 ว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มชะลอตัวลง เป็นปัจจัยหนุนดัชนีหุ้นไทยมากขึ้น โดยประเมินไว้ในกรอบ 1,565-1,670 จุด อย่างไรก็ตาม การขยับตัวขึ้นของดัชนียังขาดความมั่นคง รวมถึง Fund Flow ที่ไหลเข้ายังขาดความเสถียร จากความกังวลประเด็น QE Tapering มีโอกาสเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังยืนระดับสูงต่อเนื่องจากฐานต่ำช่วงไตรมาส 4/63 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐฯใช้มาตรการล็อกดาวน์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโลกปัจจุบันมีค่า P/E ที่สูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อต้นปี 63 แล้ว โดยตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันมี P/E สูงกว่า 20 เท่า แต่ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซื้อขายบน P/E ที่ 18-19 เท่า ประกอบกับกำไร บจ.ครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มอ่อนตัวลง 42% จากครึ่งปีแรก ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวเป็นอุปสรรคในการขยับขึ้นของดัชนีในเดือน ก.ย.นี้
KTBST ประเมินกรอบดัชนีที่ 1,570-1,680 จุด
ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.เคทีบีเอสที ประเมิน SET Index เดือน ก.ย.ที่ 1,570-1,680 จุด หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง ประกอบกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เป็นบวกมากขึ้น จึงส่งผลบวกกับตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้
อย่างไรก็ดี ยังต้องระวังหากดัชนีปรับตัวขึ้นใกล้บริเวณ 1,670 จุด อาจมีแรงขายทำกำไรเข้ามาได้ ขณะที่ตัวแปรสำคัญในเดือน ก.ย.นี้ ประกอบด้วย จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาตรการควบคุมสถานการณ์ของภาครัฐ การประชุม FOMC วันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ที่คาดว่า FED จะปรับลดมาตรการ QE อย่างเป็นทางการ และการเก็งงบบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 3/64
ฟินันเซียไซรัส แนะระยะสั้นทำกำไรบางส่วน บริเวณ 1,640-1,650 จุด
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน SET Index เดือน ก.ย.64 แกว่งขึ้นสลับพักตัวในกรอบ 1,580-1,675 จุด โดยระยะสั้น แนะนำ ทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,640-1,650 จุด ในการทดสอบครั้งแรก หลังจากปรับขึ้นแรงกว่า 8% จาก Low เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และรอจังหวะอ่อนตัวบริเวณ 1,600 จุด ในการสะสมกลับ โดยยังให้น้ำหนักเชิงบวกต่อการทยอยคลายล็อกดาวน์ หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในไตรมาส 4/64
สำหรับนักลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) มีโอกาสซื้อสุทธิกลับต่อเนื่องในระยะสั้น หลังปีนี้เทขายหุ้นไทยสุทธิเกือบ 1 แสนล้านบาท โดยประเมิน Fund Flow ยังให้ความสนใจหุ้นในกลุ่ม Domestic และ Reopening Play
ทรีนีตี้มองได้เงินทุนไหลเข้าช่วยหนุนดัชนีอีกแรง
ขณะที่ บล.ทรีนีตี้ ประเมินกรอบดัชนีหุ้นไทยเดือน ก.ย.64 เคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,660 จุด โดยในช่วงต้นเดือนยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จากกระแสเงินทุนไหลเข้าที่มีสัญญาณดีต่อเนื่อง รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่กลับมาคึกคักอีกครั้งจากการคลายล็อกดาวน์ และอัตราการฉีดวัคซีนที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนที่มีเงินสดระดับหนึ่งแล้วให้ถือครองหุ้นในพอร์ตต่อไปได้และรอขายที่ระดับดัชนี 1,660 จุด มองว่าหากดัชนีปรับขึ้นไปถึงกรอบบน คาดว่าจะเห็นแรงเทขายออกมาอย่างสำคัญได้ เนื่องจากเป็นระดับที่จะทำให้ค่า Earning yield gap ของตลาดหุ้นไทยกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาวอีกครั้ง บ่งชี้ถึง Valuation ของตลาดหุ้นที่ตึงตัวและเปราะบางต่อการปรับฐานในระยะสั้น