"บันยัน ไทยแลนด์" อาณาจักรที่อยู่อาศัยและแอ็กทีฟไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในหัวหิน เผยยอดขายเรสซิเดนซ์สุดหรูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มูลค่ากระโดดสูงถึง 125 ล้านบาท ในปี 2564 ชี้คนเมืองแห่ซื้อ “บ้านตากอากาศ” หรือ “บ้านหลังที่สอง” ในหัวหินมากขึ้น ผลพวงจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป และการพัฒนาที่ก้าวหน้าของหัวหิน
นายเชิ้ท คว้อนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บันยัน ไทยแลนด์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า มูลค่าธุรกรรมของ บันยัน เรสซิเดนซ์ หัวหิน (Banyan Residences Hua Hin) วิลล่าระดับไฮเอนด์ มีมูลค่าเกิน 125 ล้านบาทในปี 2564 มากกว่าปี 2563 และครึ่งหลังของปี 2562 รวมกัน ซึ่งเป็นความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยนายเชิ้ท ชี้ว่า กลุ่มผู้ซื้อมากกว่า 1 ใน 4 ส่วนใหญ่เป็นชาวกรุงเทพฯ ที่ต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ และต้องการมี “บ้านตากอากาศ” หรือ “บ้านหลังที่สอง” เพื่อหลีกหนีจากเมืองและการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ลักษณะเด่นประการหนึ่งของผู้ซื้อชาวไทยที่เปลี่ยนไป คือความต้องการอยู่อาศัยในเมืองรีสอร์ตที่เต็มไปด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี และมีพื้นที่กลางแจ้ง เพื่อสามารถเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรง และกระฉับกระเฉงมากขึ้น นอกจากนั้น การพัฒนาอย่างรวดเร็วของหัวหิน เช่น โรงเรียนนานาชาติ ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ และโครงสร้างพื้นฐาน เหล่านี้ยังมีส่วนทำให้อุปสงค์ต่อที่อยู่อาศัยในหัวหินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในอาณาจักร “บันยัน ไทยแลนด์” ยังมีโครงการ “บันยัน วิลเลจ” ซึ่งเป็นวิลล่าให้เช่าแบบ 2 ห้องนอน จำนวน 41 หลัง ซึ่งมีผู้เช่าถึง 90% ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 เป็นต้นมา โดยเกือบทั้งหมดเป็นชาวกรุงเทพฯ ที่ต้องการหลบหนีออกจากเมือง
“การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั่วโลกทำให้เกิดปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในหัวหินที่เพิ่มขึ้น การพิจารณาเรื่องสุขภาพส่วนบุคคลทำให้ชาวกรุงเทพฯ หลายคนตั้งคำถามถึงผลกระทบระยะยาวของการใช้ชีวิตในเมืองหลวง และความคิดที่จะกลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันยังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมการทำงานทางไกล (Work from home) บ้านได้กลายเป็นสถานที่สำหรับทำงาน ออกกำลังกาย เรียนรู้ สังสรรค์ และผ่อนคลาย ซึ่ง “บันยัน เรสซิเดนซ์” และ “บันยัน วิลเลจ” นับเป็นหนึ่งโครงการในหัวหินที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่มีคุณภาพได้อย่างครบถ้วน”
จากผลการสำรวจของ “ฟาสวาส” (FazWaz) และ “ลาซูดี” (Lazudi) ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย พบว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉลี่ยในหัวหินเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากอุปสงค์จากผู้ซื้อในต่างประเทศที่ลดลง แต่ยังได้รับการชดเชยด้วยการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวิลล่าระดับลักชัวรี
นาย เบรนแนน แคมป์เบล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟาสวาส กล่าวว่า “เมื่อดูข้อมูลเชิงลึกของหัวหิน 64% ของธุรกรรมมาจากตลาดในประเทศ การระบาดใหญ่จะส่งผลถาวรต่อสิ่งที่ผลักดันให้คนไทยซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ซื้อชาวไทยกำลังเคลื่อนตัวออกจากเมืองด้วยความเร็วที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน”
ด้าน นายคอสต้า ชาฟวา ผู้บริหารลาซูดี ให้ความเห็นว่า “วิลล่าในหัวหินตอบโจทย์ความคุ้มค่าด้านพื้นที่ ความเป็นส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลาง ภายในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด เมื่อเปรียบเทียบราคาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉลี่ยในภูมิภาคหลักที่พัฒนาแล้วอื่นๆ ของประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และสมุย ซึ่งทำให้ราคาที่คุ้มค่าในหัวหินเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความแตกต่างที่สำคัญ”
ทั้งนี้ “บันยัน ไทยแลนด์” ประกอบด้วย “บันยัน เรสซิเดนซ์” โครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งในไทย “บันยัน วิลเลจ” วิลล่าแบบให้เช่า ขนาด 2 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำสระส่วนตัวและสระลากูนขนาดใหญ่ล้อมรอบ “บันยัน กอล์ฟคลับ หัวหิน” สนามกอล์ฟ 18 หลุม บนพื้นที่ 500 ไร่ และเป็นสถานศึกษากอล์ฟ โดยโปรกอล์ฟระดับโลก
นอกจากนั้น ยังมี Be Well Medical Center คลินิกประจำบ้านที่ตั้งอยู่ภายในโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และความปลอดภัยด้านสุขภาพและสุขอนามัย ลูกบ้านและผู้เข้าพักที่บันยัน ไทยแลนด์ ยังได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรแกรม “บันยัน พริวิเลจ คลับ” (Banyan Privilege Club) เช่น ส่วนลดร้านอาหาร บีชคลับ สวนน้ำ ศูนย์กีฬา สปา ศูนย์การแพทย์ชั้นนำ และอีกมากมาย