xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์วิจัยกรุงไทยกดเป้าจีดีพีโต 0.5% แนะช่องทางธุรกิจ Solar-Corporate PPA มาแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทยปรับเป้าจีดีพีไทยเติบโตในระดับต่ำสุดของกรอบประมาณการที่ 0.5% จากเดิมที่ 0.9% และยังมีความเสี่ยงในทางต่ำจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่แน่นอน พร้อมมองโอกาสทางธุรกิจกลุ่ม Solar-Corporate PPA ผลิตพลังงานสะอาดมีแนวโน้มเติบโตสูง ตอบโจทย์แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ต้องการประหยัดค่าไฟแต่ไม่ต้องการลงทุนเอง ประเมินรายได้ธุรกิจ Solar-Corporate PPA ของไทยมีโอกาสขยายตัวเป็น 37.7-118.2 พันล้านบาท ในปี 2580 หรือขยายตัวถึง 17.5-54.8 เท่า จากปี 2563

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย 
กล่าวว่า ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS มีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตในระดับต่ำสุดของกรอบที่ประมาณการไว้ 0.5-1.3% หรือที่ 0.5% จากเดิมที่ประมาณการที่ค่ากลางในระดับ 0.9% เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดรุนแรงและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยปัจจุบันยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในระดับสูง ซึ่งประเมินไว้ว่าการส่งออกที่ยังขยายตัวได้สูงเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 14% และการท่องเที่ยวที่จะกระเตื้องขึ้นได้ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีจะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ที่ 0.5%

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงในทางต่ำอยู่มากจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่มีควาไม่แน่นอนสูง ขณะที่ภาคการผลิตยังมีโจทย์ที่ท้าทายที่จะต้องมีการบริหารจัดการให้ผู้ผลิตสามารถดำเนินการผลิตต่อไปได้ในสถานการณ์การระบาดเพื่อตอบสนองดีมานด์ของตลาดโลกที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

นายพชรพจน์ กล่าวอีกว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่เป็นอยู่นี้ หากมอง Long Term Trand แล้วยังมีธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้สูงอยู่ไม่น้อย โดย
Krungthai COMPASS มองว่า ธุรกิจ Solar-Corporate PPA เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต เนื่องจากทั่วโลกตื่นตัวกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจพลังงานสะอาด โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เนื่องจากต้นทุนการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ลดลงมาก โดยผู้ประกอบการสามารถเป็นผู้ลงทุนผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ให้แก่ผู้ว่าจ้างหรือผู้ใช้ไฟฟ้าก่อน แล้วจึงเรียกเก็บค่าไฟฟ้าภายหลังซึ่งมักต่ำกว่าอัตราค่าไฟที่ซื้อจากภาครัฐ

“ธุรกิจ Solar-Corporate PPA มีแนวโน้มเติบโตตามกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของโลก ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,541 พันเมกะวัตต์ ในปี 2593 จากปี 2563 อยู่ที่ 714 พันเมกะวัตต์ หรือขยายตัวสูงถึง 12 เท่า สำหรับในไทยธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตตามความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จากทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ธุรกิจ Solar-Corporate PPA ยังได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐทั้งด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและมิใช่ภาษีอีกด้วย”

น.ส.นิรัติศัย ทุมวงษา นักวิเคราะห์อาวุโส กล่าวว่า ธุรกิจนี้ในปัจจุบันมี 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) แบบ Synthetic เป็นการผลิตและส่งไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไฟฟ้าของผู้ผลิต โดยมีผู้จัดจำหน่ายไฟฟ้าเป็นตัวกลางกระจายไฟฟ้าและมีตลาดกลาง การซื้อขายไฟฟ้าทำหน้าที่ตรวจสอบปริมาณการผลิตและการนำจ่ายไฟฟ้า 2) แบบ Sleeved เป็นการผลิตและส่งไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไฟฟ้าของผู้ผลิตไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง โดยเช่าสายส่งไฟจากภาครัฐในการนำจ่ายไฟฟ้า และ 3) แบบ Private wire เป็นการผลิตไฟฟ้าบนอาคารหรือในสถานที่ของผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้ในประเทศไทยขณะนี้ โดยปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการน้อยราย ทำให้ภาวะการแข่งขันยังต่ำ นอกจากนี้ ธุรกิจนี้มีกำไรที่สูง โดย EBIT Margin เฉลี่ยอยู่ที่ 22.8% ในช่วงปี 2560-62 ขณะที่ผู้รับจ้างติดตั้งโซลาร์เซลล์ และผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์มี EBIT Margin เฉลี่ยเพียง 4.0% และ 3.3% ตามลำดับ

นายพงษ์ประภา นภาพฤกษ์ชาติ นักวิเคราะห์ กล่าวเสริมว่า Krungthai COMPASS คาดว่ารายได้ของธุรกิจ Solar-Corporate PPA ของไทยมีโอกาสขยายตัวเป็น 37.7-118.2 พันล้านบาท ในปี 2580 เมื่อเทียบกับปี 2563 หรือขยายตัวถึง 17.5-54.8 เท่า ทั้งนี้ การเติบโตของ Solar-Corporate PPA ขึ้นอยู่กับ 3 ประเด็นสำคัญที่ภาครัฐควรพิจารณา ได้แก่ 1) การเพิ่มสัดส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากเฉพาะ Solar Rooftop ในแผน PDP 2022 ซึ่งจะทำให้ธุรกิจนี้สามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นจากภาคเอกชนและกลุ่มครัวเรือนที่ต้องการผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เองและขายไฟฟ้าที่เหลือใช้ 2) การอนุญาตให้เช่าสายส่งไฟฟ้าในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะเปิดให้ผู้ผลิตไฟฟ้าส่งไฟฟ้าโดยตรงไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าหลายรายได้ในเวลาเดียวกัน และทำให้เกิด Solar-Corporate PPA รูปแบบ Sleeved ในไทย และ 3) การผลักดันให้มีตลาดกลางการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิด Solar-Corporate PPA รูปแบบ Synthetic ในไทย ทั้งนี้ หากมีบริการในรูปแบบ Sleeved และ Synthetic เพิ่มเติมจากแบบ Private wire จะทำให้มีบริการที่หลากหลาย และมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้ธุรกิจนี้เติบโตดีในระยะข้างหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น