"โอเชี่ยน คอมเมิรช" กำไรสุทธิเพิ่ม 1,386% จากปีก่อน อานิสงส์ยอดขายคอนโดฯ IKON SUKHUMVIT 77 โตสวนกระแสโควิด-19 พร้อมสยายปีกรุกสู่ธุรกิจอินเทรนด์ ผ่านบริษัทย่อย "เค ที ดี เอ็ม" ลุยรอบด้านทั้งจัดจำหน่าย ร่วมผลิตสินค้า และว่าจ้างผลิตสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ วัตถุดิบ ประเภทรวมพืชกัญชง-กัญชา เพื่อใช้ในการผลิตอาหารเสริมและยา คาดเริ่มเดินเครื่องผลิตในไตรมาส 4/64
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) (OCEAN) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 2 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 19.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.16 ล้านบาท หรือ 1,386.26% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.31 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 120.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 122% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 54.09 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้จากธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 94.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากโครงการ IKON77 ที่เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกของกลุ่มบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มโอนกรรมสิทธิ์พร้อมทั้งรับรู้รายได้มาตั้งแต่ไตรมาส 4/2563
โครงการ IKON77 เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 442 ยูนิต พร้อมอยู่ ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะช่วยอัปเกรดชีวิตด้วยการใช้พื้นที่ส่วนกลางอย่างคุ้มค่า เปิดบริการตลอด 24 ชม. ตั้งอยู่บนทำเลดี ติดคอมมูนิตีมอลล์ People Park เดินทางสะดวกเพียง 3 นาที จาก BTS สถานีอ่อนนุช (มีบริการรถรับ-ส่ง) สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างลงตัวในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 42.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.40 ล้านบาท หรือ 364.82% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 9.15 ล้านบาท
“ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่มีความตั้งใจจะทำธุรกิจให้ดีจริงๆ และฟื้นฟูผลประกอบการของ OCEAN ให้ได้ ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ เป็นฐานรายได้หลักในขณะนี้มีการเติบโตที่แข็งแกร่งและเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง เพราะอสังหาฯ คือปัจจัย 4 ที่ขาดไม่ได้ ขณะเดียวกัน ได้พยายามมองหาธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจและพร้อมจะเข้าลงทุนหากสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี มีความเสี่ยงต่ำและมีโอกาสที่จะเติบโตในอนาคตได้ดีควบคู่ไปด้วย เพื่อให้บริษัทฯ มีช่องทางในการสร้างรายได้อื่นเพิ่มขึ้นและถือเป็นการบริหารความเสี่ยงอีกทางหนึ่ง โดยมีเป้าหมายหลักที่ OCEAN ปักธงไว้คือการเป็นบริษัทจดทะเบียนปัจจัยพื้นฐานดี คือมีฐานทุนและฐานะทางการเงินมั่นคงแข็งแรง มีธุรกิจที่สร้างกำไรที่ดีต่อเนื่อง มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทุกปี”
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติเพิ่มทุน "บริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด" ซึ่งเป็นบริษัทย่อยอีกจำนวน 290,000 หุ้น คิดเป็น 29,000,000 บาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น โดยแหล่งที่มาของเงินที่ใช้มาจากเงินทุนหมุนเวียน โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ใช้ประกอบธุรกิจลงทุนเพื่อจัดจำหน่าย ร่วมผลิตสินค้า และว่าจ้างผลิตสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ วัตถุดิบ ประเภทรวมพืชกัญชง หรือกัญชา เพื่อใช้ในการผลิตอาหารเสริม และยา รวมถึงสั่งซื้อเครื่องจักรสำหรับการผลิต
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตในช่วงไตรมาส 4/64 และจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที โดยก่อนหน้าบริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) ด้านการลงทุนการค้าในรูปแบบสัญญาร่วมผลิตสินค้า จัดจำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาหารและยา ด้วยนวัตกรรมจากพืชกัญชาและพืชกัญชง
"มั่นใจว่าการแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจกัญชงและกัญชา โดยการเป็นผู้ผลิตสารสกัดจะช่วยผลักดันรายได้และกำไรของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง และความต้องการของลูกค้ามีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในปีนี้จะเริ่มมีรายได้เข้ามาบางส่วน และคาดว่าปี 2565 ธุรกิจสารสกัดกัญชงและกัญชามีโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้กลุ่มบริษัทกว่า 100 ล้านบาท สนับสนุนผลงานในปี 2565 ให้โตแบบก้าวกระโดดได้"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OCEAN กล่าวต่อในช่วงท้ายว่าปี 2564 นี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทฯ ไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องของผลประกอบการที่ทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ และในปี 2565 จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับ OCEAN โดยคาดว่าจะเห็นการเติบโตที่โดดเด่นยิ่งขึ้นผ่านการรุกธุรกิจทั้งจากด้านอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจกัญชงและกัญชา