xs
xsm
sm
md
lg

TVD ปรับแผนธุรกิจ B2C-B2B เสริมแกร่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘ทีวี ไดเร็ค’ วางเป้าหมายไตรมาส 4  ผลประกอบการฟื้นตัว เร่งปรับแผนใหญ่ธุรกิจ B2C รุกเพิ่มยอดขายฐานลูกค้าเก่า 6.5 ล้านคน จัดส่งแคตตาล็อกนำเสนอสินค้าฮอตฮิตกระตุ้นการตัดสินใจ เพิ่มช่องทางโปรโมตผ่านทีวีดิจิทัล เตรียมเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีกำไรสูง ด้านธุรกิจ B2B เตรียมเปิดตัว Xpresso ให้บริการจัดส่งพัสดุชิ้นเล็กผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจนายหน้าประกันภัย

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์ เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ช่วงครึ่งปีแรกประเทศไทยเผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 อย่างรุนแรงและสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง กำลังซื้อและดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ประกอบกับบริษัทฯ อยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนและพัฒนาระบบการขายสินค้าออนไลน์เพื่อก้าวสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและขยายธุรกิจใหม่ๆ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีรายได้รวม 741.95 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา และมีผลการดำเนินงานขาดทุน อย่างไรก็ตาม คาดว่าไตรมาส 3 จะเป็นจุดต่ำสุดของผลการดำเนินงานในปีนี้ และตั้งเป้าหมายกลับมาทำกำไรในไตรมาส 4 ของปีนี้ รวมถึงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปีหน้า

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของผลประกอบการจะมาจากการปรับแผนธุรกิจในกลุ่มธุรกิจ B2C และกลุ่มธุรกิจ B2B ครั้งใหญ่เพื่อสร้างรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง โดยกลุ่มธุรกิจ B2C ทั้งในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโมบาย แอปพลิเคชันในช่วงไตรมาส 4 นี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ชอปปิ้งทุกที่และทุกเวลาได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกับจัดทำแคตตาล็อกโดยนำสินค้าไฮไลต์และสินค้ายอดนิยมแต่ละกลุ่มเพื่อสื่อสารโดยตรงถึงกลุ่มลูกค้าของทีวี ไดเร็ค ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าจำนวน 6.5 ล้านคน ที่มีความแอ็กทีฟในการการซื้อสั่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการเพิ่มจำนวนคอล เซ็นเตอร์ เป็น 500 ที่นั่ง เพื่อดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดและเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงฐานลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มยอดขายจากสินค้าเฮาส์แบรนด์ สินค้าเพื่อสุขภาพและอาหารเสริมที่มีอัตรากำไรสูง รวมถึงขยายช่องทางโปรโมตสินค้าผ่านทีวีดิจิทัล

ขณะที่กลุ่มธุรกิจ B2B ภายใต้บริษัท เอบีพีโอ จำกัด ในเครือ TVD เตรียมเปิดตัวบริการขนส่งพัสดุขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ ‘Xpresso’ ในรูปแบบ Next Day ผ่านทางแอปพลิเคชัน และสามารถระบุเวลาเข้ารับสินค้าได้ถึง 22.00 น. หลังจากบริษัทฯ ได้รับพนักงานที่มีประสบการณ์จากกลุ่มบริษัทอัลฟ่าเพอร์เฟอร์มานซ์ (Alpha) ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุ ร่วมเสริมศักยภาพการให้บริการระบบจัดการคลังสินค้าออนไลน์ (Fulfillment) ที่ให้บริการจัดเก็บ แพกและจัดส่งแบบครบวงจร รองรับผู้ขายสินค้าออนไลน์ที่กำลังเติบโตตามเทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเฟสแรกมีพนักงานเข้ามาเสริมทีมจำนวน 60 คน และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 100-200 คนในอนาคต

นอกจากนี้ เอบีพีโอได้เข้าลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัปกลุ่ม Food Tech และ ED Tech พร้อมกับนำความเชี่ยวชาญของคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซซึ่งมีศักยภาพเติบโตสูง และให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจ ส่วนบริษัท ทีวีดี โบรกเกอร์ จำกัด ในเครือ เอบีพีโอ วางแผนรุกขยายธุรกิจนายหน้าขายประกันภัย เพราะมีศักยภาพและแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต หลังจากเกิดแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 ทำให้ผู้บริโภคเล็งเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้น

“การปรับแผนและกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจ B2C และ B2B เพื่อสร้างรากฐานทางธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งรองรับกับการเติบโตในช่วงภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว จะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 กลับมาทำกำไร ขณะที่ผลดำเนินงาน 2564 บริษัทฯ ได้ปรับประมาณการรายได้ที่ 2,850 ล้านบาท จากเดิม 4,000 ล้านบาท” นายทรงพล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น