xs
xsm
sm
md
lg

Hash Rate ในเครือข่าย Bitcoin กลับมาบวก หลังเหมืองขุดที่ย้ายออกจากจีนกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การประเมินอัตราประมวลผลในการขุด Bitcoin หรือ Hash Rate กลับมายืนในแนวบวกเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยคาดว่าเป็นผลมาจากนักขุดจากในประเทศจีน หลังย้ายแท่นขุดออกนอกประเทศไปยังประเทศอื่นๆตามมาตรการกวาดล้างของรัฐบาล กำลังกลับมาเริ่มเดินเครื่องขุดอีกครั้ง

จากการรายงานของ cointelegraph กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลประเทศจีนมีความเข้มงวดด้านกฎหมายคริปโทมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ส่งผลให้ประชาชนชาวชาวจีนทั้งหลายจำเป็นต้องปิดเหมือง ปิดกิจการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีกันไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการหายไปของเหมืองขุดอย่างกระทันหันนี้ ส่งผลให้ Hash Rate หรือ การประเมินผลในการถอดรหัสการขุดทั่วโลก ลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จาก 180 Exahashes ต่อวินาที (EH/s) มาสู่ ลงมาที่ 84 EH/s หรือลดลง 53% ในระยะเวลาเพียงแค่ 21 วันเท่านั้น

อย่างไรก็ดีแม้ว่า Hashrate ที่ลดลงนั้น จะเป็นผลกระทบผลโดยตรง จากจำนวนเหมืองขุดในจีนที่ลดลงก็ตาม แต่จากข้อมูลของ Blockchain.com ชี้ให้เห็นความยากในการขุดนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่ที่ Hash Rate ปรับลงหลังจากนั้น Hash Rate กลับมาเพิ่มขึ้น 21.38% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักขุดชาวจีนได้ย้ายฐานที่มั่นการขุดไปยังพื้นที่อื่น ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการขุดบิทคอยน์ เนื่องจากทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการคำนวณสูงขึ้น ดังนั้น เมื่อเหล่านักขุดชาวจีนได้กลับมาขุดอีกครั้ง ความยากและค่าใช้จ่ายในการขุดบิทคอยน์สำหรับนักขุดทั่วโลกจึงเพิ่มขึ้นตามมาด้วย

อย่างไรก็ดีซึ่งหลังจากนักขุดชาวจีนเหล่านั้น ได้ถูกรัฐบาลจีนเข้ากวาดล้างการทำเหมืองขุดคริปโตทั่วประเทศจนไม่สามารถดำเนินการขุดต่อไปได้ นักขุดเหมืองเหล่านั้นจึงต้องแสวงหาประเทศใหม่เพื่อย้ายฐานที่มั่น โดยเน้นไปที่อัตราราคาค่าไฟที่ถูก และเป็นประเทศที่มีข้อกฎหมายไม่ห้ามการขุดคริปโต โดยประเทศที่ถูกจับตามองในการตั้งเหมืองขุดคริปโต ได้แก่ ประเทศรัสเซีย, คาซัคสถาน และแคนาดา ซึ่งดึงดูดความสนใจจากนักขุดชาวจีนเป็นอย่างมาก รวมถึงปัจจัยต่างๆ ในประเทศเหล่านั้นยังเปิดกว้างเชิญชวนให้นักขุดชาวจีนย้ายฐานการขุดเข้าไปอีกด้วย

ขณะที่การระดมกำลังเข้ากวาดล้างเหมืองขุดของรัฐบาลจีนนั้น ทางรัฐบาลจีนให้เหตุผลว่า เพื่อที่จะปกป้องประชาชนจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ทางรัฐบาลจีนจึงได้ออกกฎหมายสำหรับบริษัทคริปโตต่างๆ อีกทั้งมีมาตรการจำกัดปริมาณคริปโตในพอร์ตโฟลิโอ และจำกัดปริมาณที่สามารถส่งออกนอกประเทศได้อีกด้วย

ทั้งนี้จากรายงานของ Cointelegraph ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Wang Juana สมาชิก Blockchain Expert Policy Advisory Board ของทางองค์การ OECD ก็ได้กล่าวว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกำลังเข้าสู่ความเป็น ‘de-China-isation’ โดยเริ่มจากการที่แบนการซื้อขายก่อน จากนั้นก็ไปสู่การกวาดล้างอัตราประเมินผลการขุด โดยจะเริ่มปรับความเข้มข้นของการบังคับใช้จากเบาไปหาหนัก และอาจจะมีขั้นตอนที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในการกวาดล้างคริปโตเคอร์เรนซีและบิทคอยน์อย่างที่รัฐบาลจีนทำ

ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2562 กว่า 75.53% ของ Hashrate ของทั้งโลกมาจากประเทศจีน และเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวก็ได้ลดลงมาเรื่อยๆ ก่อนหน้าการกวาดล้างเหมืองในจีนจะเกิดขึ้นเสียอีก ซึ่งจากข้อมูลของล่าสุดของ statista.com ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Hashrate โดยประเทศจีนลดลงมาสู่ 46.04% และสหรัฐอเมริกาก็เพิ่มขึ้นมาสู่ 16.85% ซึ่งเหตุการณ์นี้ ผู้เชี่ยวชาญมากมายต่างเห็นตรงกันว่าการที่จีนได้กระจายการผูกขาดออกไปสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ถือว่าเป็นผลดีในการขับเคลื่อนความเป็น Decentralized ของโลกคริปโตให้มากขึ้นอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น